สหรัฐฯย้ำปกป้องตะวันออกกลาง โจมตี ฐานที่มั่นกลุ่มติดอาวุธ 38 ครั้งในอิรัก-ซีเรีย

07 พฤศจิกายน 2566, 15:40น.


         บีบีซี รายงานอ้างพลจัตวาแพท ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯว่า กองกำลังสหรัฐฯประจำอิรักและซีเรียได้โจมตีที่มั่นกลุ่มติดอาวุธรวม 38 ครั้งในอิรักและซีเรีย นับแต่เกิดเหตุกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์บุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ส่วนใหญ่สหรัฐฯจะใช้วิธีโจมตีด้วยจรวดและส่งโดรนไปโจมตีกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่าน โดยค่ายทหารที่ถูกโจมตีเช่น ฐานทัพอัล-อัสซาดในอิรักและค่ายอัล-ทันฟ์ แกริเซินในซีเรีย



         ทั้งนี้ อิหร่านให้การสนับสนุนทั้งแก่กลุ่มฮามาส และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอน ขณะเดียวกัน กลุ่มติดอาวุธได้ลอบโจมตีค่ายทหารสหรัฐฯ 8 ครั้งในอิรักและซีเรียนับแต่วันศุกร์ที่แล้ว รวมถึงการโจมตี 5 ครั้งเมื่อวันอาทิตย์และครั้งหลังสุด  เมื่อเช้าวันจันทร์ มีทหารสหรัฐฯรวม 45 คนบาดเจ็บ รวมถึง 24 คนที่มีภาวะบาดเจ็บทางสมอง ส่วนใหญ่กลุ่มติดอาวุธยิงจรวดและใช้โดรนในการโจมตีค่ายทหารสหรัฐฯ



         โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯกล่าวถึง 4 วัตถุประสงค์หลักของสหรัฐฯในการรักษาความมั่นคงในตะวันออกกลางคือ ปกป้องทหาร-พลเมืองอเมริกันในภูมิภาค,ให้การช่วยเหลือด้านความมั่นคงสำหรับอิสราเอลในการปราบปรามกลุ่มฮามาส,ร่วมมือกับอิสราเอลในการกดดันกลุ่มฮามาสให้ยอมปล่อยตัวประกัน และการยกระดับความพร้อมของกองทัพสหรัฐฯในกรณีสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสขยายวงกว้างมากกว่านี้



         ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า อิหร่านต้องการจะฉวยโอกาสโจมตีค่ายทหารสหรัฐฯในอิรักและซีเรีย เพื่อให้สหรัฐฯเกิดอาการห่วงหน้าพะวงหลังในการให้การสนับสนุนทางทหารแก่อิสราเอล สำหรับเหตุโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาส แม้ว่าสหรัฐฯไม่มีหลักฐานอย่างชัดแจ้งว่าอิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง แต่สหรัฐฯเชื่อว่าอิหร่านเกี่ยวข้องโดยอ้อม เช่น ปลุกระดมให้กลุ่มฮามาสฮึกเหิมกระทั่งก่อเหตุดังกล่าว



#สหรัฐฯ



#ตะวันออกกลาง

ข่าวทั้งหมด

X