การปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำ และ การปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้กระทรวงแรงงาน เร่งรัดการศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำและรายงานผลให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) ทราบโดยเร็ว ให้ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานกรรมการข้าราชการพลเรือน เร่งรัดให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาความเหมาะสม และเป็นไปได้ แนวทาง กรอบระยะเวลา และผลกระทบของการปรับอัตราเงินดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ชัดเจน และรายงานผลให้ครม.ทราบโดยเร็วภายในเดือนนี้
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ พนักงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจ จะต้องพิจารณาภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และการจัดเก็บรายได้ของรัฐ เป็นปัจจัยสำคัญด้วย
นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผอ.สำนักงบประมาณ เปิดเผยถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า เบื้องต้นได้หารือกับเลขาฯ ก.พ. แล้ว ขณะนี้ ก.พ.อยู่หว่างการศึกษาแนวทางว่าจะเพิ่มเงินเดือนได้อย่างไร ต้องปรับบัญชีหรือไม่ และจะเพิ่มหน่วยงานใดบ้าง เช่น ข้าราชการพลเรือนทหาร เป็นต้น หลังได้ข้อสรุปจะหารือกับสำนักงบประมาณ เพื่อดูช่องทางการเพิ่มเงินเดือนให้ข้าราชการ คาดว่าสัปดาห์นี้จะมี ก.พ. สศช. และสำนักงบประมาณ โดยมีนายปานปรีย์ เป็นประธาน หลังได้ข้อสรุปจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ได้ทันภายในเดือนนี้
นายเฉลิมพล กล่าวว่า สำหรับแหล่งเงินที่จะใช้เพื่อจ่ายเงินเดือนเพิ่มให้ข้าราชการ จะต้องดูว่าจะเริ่มจ่ายได้เมื่อใดและใช้เท่าใด หากจะใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 สามารถทำได้ แม้จะมีการยื่นคำของบฯ ของหน่วยงานเข้ามาแล้ว แต่ยังมีงบฯกลาง (เงินเลื่อนขั้นเงินเดือน เงินปรับวุฒิข้าราชการ) ที่นำมาใช้ได้หากหน่วยงานนั้นมีงบฯไม่เพียงพอ แต่ถ้าเริ่มปีงบฯ 2568 ทำได้ไม่มีปัญหา เพราะปฏิทินปีงบฯ 2568 สำนักงบประมาณจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ภายในเดือน ม.ค. 67 ยังมีเวลาในการจัดทำคำขอ
#เพิ่มเงินเดือนกลุ่มข้าราชการ
#เจ้าหน้าที่รัฐ
#ค่แรงขั้นต่ำ
แฟ้มภาพ