การเดินทางด้วยรถไฟ ไปติดตามงานโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC (Eastern Economic Corridor) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านทางแพลตฟอร์ม X และ เฟซบุ๊ก ว่า
"ผมตั้งใจนั่งรถไฟจากสถานีหัวลำโพง ไปศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ครับ พูดถึงการเดินทางสะดวก และสะอาดมากระหว่างเดินทางผมจึงประชุมเตรียมข้อมูลสำหรับลงพื้นที่ EEC วันนี้ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปด้วย ผมคิดว่า EEC เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ เราต้องเร่งรัดให้เกิดการเข้ามาลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งทางรัฐบาลต้องเตรียมระบบสาธารณูปโภค เช่น ระบบน้ำ มาตรการทางภาษี และอื่นๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนครับ
ผมชวนท่านรัฐมนตรี และท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รวมถึงภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้อำนวยการการท่าเรือ ผู้ว่าการรถไฟ ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทย ฯลฯ เดินทางด้วยรถไฟไปลงพื้นที่กับผมวันนี้ด้วยครับ ทำให้ช่วงเวลา 2 ชม. บนรถไฟ ผมได้ติดตามงานด้านโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมต่อใน EEC, เรื่องน้ำ ,ไฟฟ้า ,ถนน ,ระบบราง ,ท่าเรือ ,พลังงาน และสนามบินอู่ตะเภาครับ
เรื่อง EEC ผมถือว่าเป็นขุมทรัพย์ใหญ่ของประเทศ ได้จัดตั้งคณะกรรมการชุดเล็กรับผิดชอบ โดยให้ท่านสุริยะเป็นประธานขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ให้มีแผนชัดเจน เพื่อปลดล็อคประเด็นต่าง ๆ เช่น เรื่องภาษีที่ดิน กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไปจนถึงระบบที่จะสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน เพื่อให้พร้อมรับนักลงทุนมากยิ่งขึ้น
เรื่องการขยายท่าเรือที่มีความล่าช้า ผมได้มอบให้กรมท่าไปทำแผนมาว่าจะ Catch Up ที่ดีเลย์อย่างไร และให้จัดแถลงอธิบายภายในสัปดาห์หน้าให้ทุกคนรับทราบ
ส่วนเรื่องรถไฟที่จะเชื่อมต่อทั้งหมด ได้สั่งการให้ไปเร่งจัดการให้ดำเนินการได้ โดยเฉพาะการบริหารสัญญาฉบับแรก ควรจะต้องมีความเรียบร้อยด้วยครับ เพื่อเป็นโมเดลการบริหารที่จะขยายไปยังสัญญาอื่น ๆ ให้สำเร็จ
โครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมต่อทั้งหมดนี้จะเป็นสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ ลดรายจ่าย และขยายโอกาสให้กับประเทศครับ
ช่วงเที่ยง ผม และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมท่าเรือแหลมฉบังและพูดคุยกันถึงประเด็นศักยภาพของพื้นที่สำหรับการรองรับสินค้าอุตสาหกรรมหนักในการนำเข้าและส่งออกของท่าเรือแหลมฉบัง
จากนั้นได้ตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลเพื่อติดตามระบบการบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำให้รองรับ EEC ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ และมีแผนพัฒนาแหล่งน้ำ ระหว่างปี 2563-2580 จำนวน 38 โครงการ โดยมีแผนดำเนินการให้เสร็จทั้งหมดภายในปี 2570 ซึ่งรัฐบาล เอกชน และรัฐวิสาหกิจ ต้องร่วมมือกันเพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องพลังงานสะอาด และการมีน้ำใช้อย่างเพียงพอสำหรับภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และภาคประชาชน ผมขอขอบคุณ บ.อีสวอร์เตอร์ และ บ.วงศ์สยาม ที่มาจับมือร่วมกันบริหารจัดการน้ำในวันนี้โดยเห็นประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญครับ"
#นายกฯนั่งรถไฟ
#EEC
CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ เศรษฐา ทวีสิน-Srettha Thavisin