สหรัฐฯ ประกาศยุทธศาสตร์ต่อสู้กับความเกลียดชังทางศาสนา

          ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะต่อสู้กับความเกลียดชังที่เกี่ยวข้องกับความแตกต่างทางศาสนา หลังจากที่สหรัฐฯยืนยันการสนับสนุนอิสราเอลในความขัดแย้งกับกลุ่มฮามาส และมีเหตุโจมตี ทำร้ายร่างกายชาวอเมริกันมุสลิมเพิ่มขึ้น นางคารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า เป็นเวลานานเกินไปแล้วที่มีการทำร้ายและเลือกปฏิบัติต่อชาวมุสลิมในอเมริกา และผู้ที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นมุสลิม สภานโยบายภายในประเทศและสภาความมั่นคงแห่งชาติ ความร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว จึงร่วมกันนำเสนอร่างยุทธศาสตร์เพื่อปกป้องมุสลิมและผู้ที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นมุสลิมเหล่านั้น

          อย่างไรก็ตามในความเห็นของกลุ่มนักเคลื่อนไหวมุสลิมอเมริกัน ต่างระบุว่า ยุทธศาสตร์ที่แท้จริงของทำเนียบขาวยังคงเป็นการสนับสนุนอิสราเอล และเพิกเฉยต่อเสียงเรียกร้องให้หยุดยิง ทำให้คะแนนสนับสนุนประธานาธิบดีลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตมิดเวสต์ ทั้งในรัฐมิชิแกน เพนซิลเวเนีย และจอร์เจีย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ประธานาธิบดีกล่าวปราศรัยหาเสียงที่มินนิโซตาเมื่อวันพุธ (1 พ.ย.66) ยังแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของสถานการณ์

          โดยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีหญิงคนหนึ่งในกลุ่มผู้ฟังการปราศรัย ตะโกนเรียกร้องให้ประธานาธิบดีเร่งรัดการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในทันที จากนั้นเธอก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนำตัวออกไป ซึ่งต่อมากลุ่มเสียงชาวยิวเพื่อสันติภาพ (Jewish Voice for Peace) เพิ่มเติมว่า หญิงคนนี้ คือ แรบไบ เจสซิกา โรเซนเบิร์ก ในโพสต์ที่มีการเผยแพร่ผ่านเอ็กซ์ (X) เธอตะโกนว่า หากมีความใส่ใจชาวยิว ในฐานะแรบไบ เธอต้องการให้เขาเรียกร้องให้หยุดยิงในตอนนี้ ทางกลุ่มย้ำว่า แรบไบโรเซนเบิร์ก กำลังพูดในนามของชาวอเมริกันเชื้อสายยิวหลายพันคนที่ไม่ยอมรับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นในนามของพวกเขา

          ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดียืนกรานหลายครั้งว่าสหรัฐฯ จะอยู่เคียงข้างอิสราเอล ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ปฏิเสธข้อเรียกร้องหยุดยิงอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่ามีเพียงฝ่ายฮามาสที่จะได้ประโยชน์

..

#โจไบเดน

#สหรัฐอเมริกา

#อิสราเอล