วันนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งทีมแพทย์ชุดที่ 3 ออกเดินทางไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเนปาล ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2558 นพ.เกรียงศักดิ์ ธนอัศวนันท์ ผู้อำนายการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เด่นชัย จังหวัดแพร่ ในฐานะหัวหน้าชุด เล่าให้ฟังว่า ทีมแพทย์ชุดนี้เป็นชุดที่ 3 ของไทยที่เดินทางไปดูแลด้านสาธารณสุขที่ประเทศเนปาล มีจำนวน 20 คน ประกอบไปด้วยแพทย์ 9 คน ซึ่งเป็นแพทย์ทางด้านการแพทย์ฉุกเฉิน แพทย์ด้านจิตวิทยา และแพทย์ด้านระบาดวิทยา รวมถึงมีพยาบาลและนักสื่อสาร ซึ่งมีกำหนดการเดินทางไป 14 วัน โดยจะลงไปตั้งศูนย์ ที่โรงเรียนชานดา ในอำเภอเคบีพาลันโชค ของเนปาล ซึ่งใช้เวลาเดินทางห่างจากเมืองกาฐมาณฑุ 4ชั่วโมง และเมื่อไปถึงภาระกิจหลักของทีมแพทย์ชุดนี้ คือ การไปช่วยเหลือ ฟื้นฟู ดูแลการรักษาด้านต่าง ๆ ทั้งการดูแลรักษา และ สุขาภิบาล อาหาร น้ำ สิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ส่วนการเตรียมตัวทำงานในพื้นที่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทีมแพทย์ของไทยจะไปที่พื้นที่นี้ จึงจะต้องสำรวจสภาพโดยรวม เพื่อประเมิณและวางแผนในการทำงานก่อน จากนั้นจึงจะเน้นการทำงานโดยส่งทีมแพทย์ลงไปในชุมชน รวบคู่ไปกับ การตั้งศูนย์หลักอยู่ที่โรงเรียนชานดา ส่วนการเตรียมตัวของทีมแพทย์ชุดนี้ก็ได้มีการปฐมนิเทศ ทีมแพทย์เพื่อให้พอทราบข้อมูลในพื้นที่ และมีการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคให้ทีมแพทย์ทุกคนแล้วเมื่อวานนี้ ส่วนอุปกรณ์ที่เตรียมไป ก็มีทั้ง เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ยา เครื่องผลิตน้ำดื่ม และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เป็นต้น
ด้านนพ.ชูชาติ นิจวัฒนา แพทย์จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต หนึ่งในแพทย์ที่ร่วมเดินทางไป เล่าให้ฟังว่า ส่วนตัวมีความพร้อมทั้งร่างกายและสภาพจิตใจที่จะเดินทางไปให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาขนชาวเนปาล ส่วนความพร้อมก่อนไปก็มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคแล้ว แต่ในขณะปฎิบัติงาน คิดว่าไม่กังวลเพราะการป้องกันโรคก็มีการระวังเป็นปกติอยู่แล้วขณะที่ทำงานตามปกติ แต่ที่ต้องระวัง คือ ยุงซึ่งอาจจะเป็นพาหะนำโรค ซึ่งก็เตรียมป้องกันทั้งอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ยากันยุง มุ้ง เต้นท์ ไปด้วย แต่อย่างไรก็เชื่อว่าการไปปฎิบัติภาระกิจในครั้งนี้ทีมแพทย์ทุกคนที่ไปจะทำงานอย่างเต็มที่
สำหรับทีมแพทย์ชุดนี้เป็นชุดที่ 3 แล้ว จากที่เมื่อวานก็มีคณะแพทย์ที่เดินทางกลับมาขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงนี้ ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 7,903 ศพ บาดเจ็บ 17,803 คน
ส่วนการฟื้นฟู ก่อนหน้านี้นายรัม ชารัน มหัต รัฐมนตรีคลังเนปาล คาดว่าในการฟื้นฟูและซ่อมบ้านเรือน อาคารต่างๆ และสถานที่สำคัญทางศาสนา จะต้องใช้เงินงบประมาณ มากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 64,000ล้านบาท
..ผสข.วิรวินท์ ศรีโหมด