ปปง.เตรียมยึดทรัพย์ขบวนการค้ามนุษย์ปาดังเบซาร์

เมื่อวานนี้ พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันทน์ ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จ.สงขลา สนธิกำลังเจ้าหน้าที่จาก 5 หน่วยงาน ทั้ง ตำรวจ ทหาร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และเจ้าหน้าที่สรรพากรตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุด ในเขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ ที่เป็นเครือข่ายข่ายของขบวนการค้ามนุษย์ พบหลักฐานสำคัญหลายรายการรวมถึงบัญชีจำนวนชาวโรฮีนจา บัญชีทางการเงิน และอาวุธปืน ซึ่งทั้งหมดนี้ ทางปปง.จะยึดและอายัดไว้ จากนั้นพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. เปิดเผยว่า ศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ปาดังเบซาร์เพิ่มเติม 20 คน รวมที่ออกหมายจับไปแล้ว 49 คน จับกุม 10 คน อายัด 1 คน ยังหลบหนีการจับกุม 38 คน เจ้าหน้าที่กำลังสอบพยานปากสำคัญเพิ่มเติม เพื่อติดตามจับกุมตัวการใหญ่และผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการค้ามนุษย์ ใครมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการทั้งหมด

ส่วนนายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง (ปค.) ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนายอำเภอสะเดา และย้ายปลัดอำเภอในพื้นที่ 2 คน พร้อมสั่งการไปยังปลัดอำเภอและนายอำเภอทั่วประเทศ ห้ามสนับสนุนขบวนการค้ามนุษย์โดยเด็ดขาด โดยจะใช้มาตรการทางปกครองในการปราบปรามค้ามนุษย์       

ด้านนางไซดา มูนา ทัสนีม เอกอัครราชทูตบังกลาเทศประจำประเทศไทย เข้าหารือกับนายเอกรัฐ หลีเส็น รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือชาวบังกลาเทศ และขอพิสูจน์สัญชาติชาวบังกลาเทศ 6 คนที่อยู่ในความดูแลของจังหวัดสงขลา ซึ่งความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์จะต้องทำร่วมกัน 4 ประเทศ คือ ไทย พม่า มาเลเซีย และบังกลาเทศ ด้วยการจัดประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลในระดับผู้ปฏิบัติการระหว่างประเทศไทยและประเทศบังกลาเทศก่อน แล้วขยายความร่วมมือไปยังประเทศพม่าและประเทศมาเลเซีย เพื่อหาแนวทางร่วมมือกันแก้ไข

นอกจากนี้ยังมีรายงานพบผู้ลักลอบเข้าเมืองที่ถูกทิ้งบนเทือกเขาแก้ว เขตรอยต่อ อ.รัตภูมิ ติด อ.หาดใหญ่ จ.สงขลามีจำนวน 123 คน ในจำนวนนี้เป็นหญิง 7 คน เด็กเล็ก 1 คน ซึ่งในจำนวนผู้หญิง 7 คน มีผู้หญิงท้อง 1 คน ทั้งหมดอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ภายในศาลาประชาคมที่ว่าการอำเภอรัตภูมิ จ.สงขลา เพื่อคัดแยกสัญชาติ ซึ่งผลการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าส่วนใหญ่เป็นชาวบังกลาเทศ ที่ต้องการเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย แต่ถูกกลุ่มนายหน้าปล่อยทิ้งกลางป่า ซึ่งนายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าฯ สงขลา คาดว่า จะยังมีกลุ่มผู้อพยพที่หลงเหลืออยู่บนเทือกเขาแก้ว เขตรอยต่อจ.สงขลากับจ.สตูลอีกจำนวนหนึ่ง จึงสั่งการให้ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่เร่งดำเนินการค้นหา โดยขอความร่วมมือจากชาวบ้านช่วยแจ้งเบาะแสเพื่อมนุษยธรรม ส่วนของคดีมีใครเข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่ยกเว้น

..