ราคาน้ำมันโลกร่วงต่อเนื่อง-หุ้นดาวโจนส์บวกรอประชุมเฟดสัปดาห์นี้

          ปิดตลาดราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์ค ลดลง1.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 81 เหรียญ 2 เซนต์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือ ตลาดลอนดอน ลดลง 4 เซนต์ ปิดที่ 87 เหรียญ 41 เซนต์

          ธนาคารโลกคาดราคาน้ำมันทั่วโลกจะเฉลี่ยอยู่ที่ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาสที่ 4 และลดลงเหลือเฉลี่ย 81 ดอลลาร์ในปี 2567 แต่ความขัดแย้งในตะวันออกกลางครั้งล่าสุดที่ทวีความรุนแรงอาจทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

          รายงานแนวโน้มตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ล่าสุดของธนาคารโลก ระบุว่า ราคาน้ำมันได้เพิ่มขึ้นเพียงประมาณ 6% นับตั้งแต่เริ่มสงครามอิสราเอล-ฮามาส ในขณะที่ราคาสินค้าเกษตร โลหะส่วนใหญ่ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ "แทบไม่ขยับเลย"

          รายงานสรุปสถานการณ์ความเสี่ยงออกเป็นสามสถานการณ์โดยอิงจากเหตุการณ์ในอดีตที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในภูมิภาคนับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 โดยมีความรุนแรงและผลที่ตามมาเพิ่มมากขึ้น

          สถานการณ์ "การหยุดชะงักเล็กน้อย" เทียบเท่ากับการลดปริมาณการผลิตน้ำมันที่พบในช่วงสงครามกลางเมืองลิเบียในปี 2554 ที่ประมาณ 500,000 ถึง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) จะทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นในช่วง 93 ถึง 102 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงไตรมาสที่ 4 

          ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(31ต.ค.) ปิดบวก นักลงทุนจับตามองที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯในช่วงกลางสัปดาห์ ท่ามกลางรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง ที่ออกมาผสมผสาน ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 123.91 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,052.87 จุด

#เศรษฐกิจสหรัฐ