สหรัฐฯ ย้ำไม่ได้อยู่เบื้องหลัง ปลุกม็อบต้านชาวยิวที่สนามบินดาเกสถาน ของรัสเซีย

          กรณีประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย กล่าวต่อที่ประชุมความมั่นคงแห่งชาติรัสเซียเมื่อวันจันทร์ พร้อมมีการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์รัสเซีย กล่าวหายูเครนและชาติตะวันตกอยู่เบื้องหลังเหตุม็อบต่อต้านชาวยิวโดยการส่งข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์ต่อๆกัน ทำให้ม็อบหลายร้อยคนรวมกลุ่มกันก่อเหตุจลาจลในสนามบินเมืองมาคัชคาลา เมืองหลวงของสาธารณรัฐดาเกสถาน (Dagestan) ทางภาคใต้ของรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ เพื่อไล่ล่าหวังทำร้ายผู้โดยสารที่เพิ่งจะเดินทางมาจากเมืองเทลอาวีฟ อิสราเอล ในที่สุด เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของสาธารณรัฐดาเกสถานควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว พร้อมจับกุมแกนนำม็อบกว่า 60 คน

          นายปูตินระบุว่าเป็นความพยายามของชาติตะวันตกที่จะปลุกปั่นให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวลุกฮือขึ้นมาเพื่อก่อเหตุความไม่สงบในรัสเซีย นอกจากนี้ นายปูตินกล่าวหารัฐบาลสหรัฐฯ คือ พรรคเดโมแครตและพันธมิตรของสหรัฐฯได้ประโยชน์จากปัญหาภาวะไร้เสถียรภาพทั่วโลก บีบีซีรายงานว่า นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯแถลงที่ทำเนียบขาวของสหรัฐฯในวันนี้ ปฏิเสธว่าเป็นคำอ้างที่ไร้สาระและเป็นวาทกรรมเดิมๆของรัสเซีย ระบุว่าทุกครั้งที่สถานการณ์ในประเทศเริ่มย่ำแย่ ผู้นำรัสเซียจะกล่าวหาประเทศอื่นๆว่าอยู่เบื้องหลังทุกครั้ง พร้อมปฏิเสธว่าชาติตะวันตกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นในรัสเซีย

           นายดมิตรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียกล่าวว่า ภาพข่าวทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวในเขตฉนวนกาซา เช่น การเสียชีวิตของพลเรือน เด็ก และผู้สูงอายุ ทำให้เป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับบรรดาคู่ปรปักษ์ของรัสเซียจะนำเหตุการณ์มาจุดชนวนให้เกิดเหตุความวุ่นวายในรัสเซีย

           สำหรับสาธารณรัฐดาเกสถาน เป็นเขตปกครองตนเองแห่งหนึ่งของรัสเซีย มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า เหตุการณ์นี้อาจจะเกิดจากกระแสความไม่ใจที่อิสราเอลโจมตีเขตฉนวนกาซาของปาเลสไตส์อย่างรุนแรง เพื่อปราบปรามกลุ่มฮามาส หลังบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.

#สหรัฐปฏิเสธ

#คำอ้างรัสเซีย

#กรณีม็อบต้านยิว