สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส กดดันทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลก ปิดตลาดวันจันทร์(30 ต.ค.66) ลดลงมากกว่า 3%
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธ.ค.66 ลดลง 3.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธ.ค.66 ลดลง 3.03 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 3% ในวันศุกร์(27ต.ค.66) หลังอิสราเอล ยกระดับรุกรานทางภาคพื้นดินเข้าสู่ฉนวนกาซา สร้างความกังวลว่าความขัดแย้งอาจลุกลามบานปลายในภูมิภาค ที่มีกำลังผลิตน้ำมันคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของกำลังผลิตน้ำมันโลก อย่างไรก็ตาม ความกังวลดังกล่าวผ่อนคลายลงไปเมื่อวันจันทร์(30ต.ค.66)
นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระหว่างวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.66 นักลงทุน เทน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งสุดท้ายในปีนี้ แม้ว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group ชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 98.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.66
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 79.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค.66 หลังจากให้น้ำหนักเพียง 57.7% เมื่อเดือนที่แล้ว
#น้ำมันโลก
#วิกฤตตะวันออกกลาง
#ประชุมเฟด
แฟ้มภาพ