'พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์' บินด่วนคลี่คลายคดี!! 'แป้ง นาโหนด' คาดกบดานบนภูเขา ศาลออกหมายจับแล้ว 8 ราย

             ความคืบหน้าคดีนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด นักโทษคดีสำคัญ ซึ่งมีพวกพาหลบหนีออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เหตุเกิดเมื่อดึกวันที่ 22 ต.ค.66

             พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท. รอง ผบ.ตร. บินด่วนมาประชุมติดตามคดี โดยมี พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช, พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช, ตำรวจสืบสวนภาค 8, ตำรวจสืบสวนภาค 9, ตำรวจกองปราบปราม, ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราชและตำรวจชุดคลี่คลายคดีต่างๆ ร่วมรายงานผลความคืบหน้าของคดี

             ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการช่วยเหลือนายเชาวลิต แล้วจำนวน 8 รายด้วยกัน รวมถึงนายเชาวลิต ประกอบด้วย น.ส.วิลาวัลย์ หรือไหม อายุ 32 ปี, น.ส.ยุวเรศ หรือ หมวย อายุ 26 ปี, นายคเณศ หรือ บอย อายุ 28 ปี, นายจักรี หรือบิ๊ก อายุ 41 ปี, นายจีระวุฒิ หรือ ปอยหรือลูกวัว อายุ 31 ปี, น ส.วิลาวัลย์ หรือทราย อายุ 30 ปี ซึ่งทั้ง 6 คน ถูกตำรวจจับกุมแล้วตามหมายจับในข้อหา ร่วมกันกระทำการด้วยประการใด ให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ซึ่งเป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปหลุดพ้นจากการคุมขังไป ในส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2คนที่ถูกออกหมายจับแต่ยังหลบหนีอยู่ขณะนี้ คือ นายเชาวลิต อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊ง และนายสุทิวัส อายุ 28 ปี หรือ หนอน ทุ่งลาน ชาว จ.พัทลุง ทำหน้าที่ขับรถยนต์เก๋งยี่ฮอนด้าซีวิค สีดำ นำหน้าขบวนพานายเชาวลิต หลบหนีในคืนเกิดเหตุ

            ขณะเดียวกัน วันนี้ ตำรวจสภ.เมืองนครศรีธรรมราช มีการนำหลักฐานดีเอ็นเอจำนวนมาก ที่ตรวจจากร่องรอยต่างๆในรถยนต์กระบะ 2 คัน ที่ใช้ก่อเหตุพาผู้ต้องหาหลบหนีและตำรวจมีการตรวจยึดรถกระบะทั้ง 2 คันมาได้ โดยตำรวจนำหลักฐานเอาชุดดีเอ็นทั้งหมดที่ตรวจได้เดินทางไปตรวจผลดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานดีเอ็นเอภาค 9 ที่ รพ.มอ.สงขลาแล้ว เพื่อเป็นหลักฐานสำคัญในการมัดตัวผู้ต้องหาทั้งหมด

           พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยกำลังตำรวจชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีได้เบิกตัวนายจักรี หรือบิ๊ก อายุ 41 ปี และนายจีระวุฒิ หรือปอย หรือลูกวัว อายุ 31 ปี 2 ใน 8 ผู้ต้องหา ไปชี้จุดที่เกิดเหตุใน รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช โดยก่อนไปชี้จุด ตำรวจได้ให้นายจักรี ชี้ยืนยันว่าเป็นคนทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะ ส่วนนายจีระวุฒิ ชี้ยืนยันว่าได้นั่งในรถกระบะคู่กับนายเชาวลิต ในรถคันเดียวกับที่หลบหนีออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช

            จากนั้น พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนและสายตรวจนับสิบนายอาวุธปืนครบมือ คุมตัวทั้ง 2 คน ไปชี้จุดต่างๆใน รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ทั้งในคืนแรกวันที่ 20 ต.ค.66 ที่เตรียมวางแผนหลบหนี แต่ไม่สำเร็จ และคืนที่ 2 วันที่ 22 ต.ค.66 ที่หลบหนีสำเร็จ

            ผู้ต้องหาทั้งสองได้นำชี้จุดบริเวณจอดรถด้านหลัง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ที่เป็นจุดนัดเจอกันเพื่อวางแผนและมีกระเป๋าดำที่ภายในมีอาวุธปืน 1 กระบอก และอุปกรณ์คีมตัดโซ่และกุญแจผี ซิมโทรศัพท์ ขึ้นไปส่งให้กับ นายเชาวลิต บนเตียงผู้ป่วย

            จากนั้นตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองขึ้นไปชี้จุดบนเตียงผู้ป่วย เพื่อชี้จุดเตียงผู้ป่วยที่นายเชาวลิต นอนรออยู่ ซึ่งมีนายจักรี เดินปะปนกับญาติผู้ป่วยคนอื่นๆ เพื่อดูลาดเลาและวางแผนหลบหนี และจุดที่นายจีระวุฒิ ขึ้นไปนอนรอปะปนกับญาติผู้ป่วยที่ห้องอายุรกรรม 6 เมื่อ นายเชาวลิต สะเดาะกุญแจเครื่องพันธนาการสำเร็จ และเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เป็นชุดดำ นายเชาวลิต ได้เดินไปเตะก้นนายจีระวุฒิ ที่นอนตื่นแล้ว และเดินตามกันไปลงลิฟต์ไปชั้น G นายเชาวลิตได้เดินออกจากลิฟต์คู่มากับนายจีระวุฒิ ตรงตามภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด โดยนายจักรี ได้เดินลงไปล่วงหน้าไปทำหน้าที่ขับรถกระบะอีซูซุ สีขาว รออยู่ก่อนแล้ว

            จากนั้น นายเชาวลิต เดินไปขึ้นรถยนต์เก๋งฮอนด้าซีวิค สีดำ ที่มีนายสุทธิวัส หรือหนอน อายุ 28 ปี ทำหน้าที่เป็นคนขับ จอดรออยู่ด้านหลัง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ก่อนที่ขบวนรถทั้ง 3 คัน มีรถเก๋งสีดำขับนำหน้า กระบะมิตซูบิซิสีขาวขับตามเป็นคันที่ 2 และรถกระบะอีซูซุสีขาวขับตามเป็นคันที่ 3 เลี้ยวซ้ายออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ไปตามถนนราชดำเนิน มุ่งหน้าผ่านสี่แยกหัวถนนศาลามีชัย เมื่อขับเลยสี่แยกหัวถนนไปประมาณ 200-300 เมตร นายเชาวลิต สั่งให้จอดรถ แล้วได้ลงจากรถเก๋งสีดำไปนั่งรถกระบะมิตซูบิซิสีขาวแทน มีนายจีระวุฒิ นั่งด้านหลังคู่มากับ นายเชาวลิต ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง จ.พัทลุง แล้วแยกย้ายกันหลบหนีในที่สุด

            เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้พาไปชี้จุดที่พักรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ห่างจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ประมาณ 15 กม. ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาได้มาเปิดห้องพัก 3 ห้อง เพื่อเตรียมวางแผนช่วยเหลือ นายเชาวลิต หลบหนีด้วย

             จากการสอบปากคำจากนายจักรี และนายจีระวุฒิ ทราบว่า นายเชาวลิต ยังหลบหนีอยู่บนภูเขาพื้นที่รอยต่อ จ.พัทลุง ซึ่งตำรวจสืบสวนภาค 9 ,ตำรวจสืบสวนภาค 8,สืบสวนจังหวัด และตำรวจกองปราบปราม อยู่ระหว่างกดดันติดตามอย่างเต็มที่แล้ว

#ตามจับแป้งนาโหมด

CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ POLICETV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,ผู้พิทักษ์