SET ปิดวันนี้ที่ 1,371.22 จุด ลดลง 30.48 จุด มูลค่าซื้อขาย 45,690.17 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลงแรง โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,370.30 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,396.17 จุด หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 53 หลักทรัพย์ ลดลง 496 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 92 หลักทรัพย์ ต่างชาติขายสุทธิ 1,561.83 ล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงไปกว่า 30 จุด รับแรงกดดันทั้งนอกประเทศและในประเทศ โดยกังวลดอกเบี้ยสหรัฐยืนในระดับสูงยาวนาน หลังยอดขายบ้านใหม่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดมาก ทำให้เป็นปัจจัยหนุนต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) 10 ปีของสหรัฐปรับตัวขึ้น รวมถึงบ้านเราด้วย ขณะเดียวกันสถานการณ์ในตะวันออกกลางก็กลับมาตึงเครียดมากขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น
ปัจจัยในประเทศ รัฐบาลได้มีการประกาศเกณฑ์การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตออกมา 3 แนวทาง โดยจำกัดสิทธิคนรวย แต่ยังต้องรอความชัดเจนว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่ม Spending ประกอบกับเงินทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ยังไหลออกต่อเนื่อง หลังค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่า
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลง ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค และยังคงผันผวนต่อไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าปัจจัยต่างๆ จะชัดเจน โดยยืนยันว่าปัจจัยพื้นฐานตลาดหุ้นไทยไร้ปัญหาแต่มาจากปัจจัยภายนอก ซึ่งปีนี้มี Fund Flow ไหลออกไปแล้ว 1.07 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุนระยะสั้น พร้อมมองว่าจุดพลิกผันตลาดหุ้นไทยจะเกิดขึ้นได้หากปัจจัยลบภายนอกคลี่คลาย หุ้นไทยปิดตลาดวันนี้ ต่ำสุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่ปลายปี 2563
ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงมากกว่าร้อยละ 2 ในวันนี้ (26 ต.ค.) จากแรงเทขายหุ้นเทคโนโลยี เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับแนวโน้มทางธุรกิจของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในสหรัฐ และกังวลถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 30,601.78 จุด ร่วงลง 668.14 จุด
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลดลงในวันนี้ เนื่องจากตลาดวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับร้อยละ 5 ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ระดับ 17,044.61 จุด ลดลง 40.72 จุด
#หุ้นไทยร่วง30จุด