*ขนส่ง สั่งปรับรถแท็กซี่ขาดต่อภาษี ไม่ตรวจรอบมิเตอร์ ไม่อนุโลมตามที่แท็กซี่ร้องขอ*

08 พฤษภาคม 2558, 11:33น.


การตรวจรถแท็กซี่สาธารณะบริเวณอาคารผู้โดยสารในประเทศ ขาออก ท่าอากาศยานดอนเมือง ของกรมการขนส่งทางบก นายวิวัฒน์ วงศ์ศิริ เจ้าพนักงานชำนาญงาน กองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เป็นการลงพื้นที่ตามปกติของเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกที่ลงตรวจพื้นที่ดังกล่าวช่วงเช้าของทุกวันเว้นวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00น. เพื่อสุ่มตรวจรถแท็กซี่สาธารณะที่เข้ามาส่งผู้โดยสารบริเวณอาคารในประเทศขาออก ซึ่งการตรวจจะเน้นเรื่องการปฎิเสธรับผู้โดยสารเป็นหลัก พร้อมไปกับการตรวจสภาพภายในรถ ใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ รอบมิเตอร์รถว่าขาดอายุหรือไม่ การแต่งกายของผู้ขับรถ และการต่อรอบภาษีประจำปี รวมทั้งทะเบียนรถที่ต้องเป็นป้ายเหลืองเท่านั้น โดยนายวิวัฒน์ ระบุว่า ไม่ค่อยพบปัญหาของรถแท็กซี่ในดอนเมือง แต่หากจะเป็นปัญหาที่พบมากที่สุดก็คือ ความผิดเกี่ยวกับรอบมิเตอร์ขาดอายุ และการแต่งกายของผู้ขับรถ แต่โดยรวมถือว่าดีขึ้นกว่าเมือก่อนมาก ทั้งนี้หากตรวจพบรถแท็กซี่ที่กระทำผิดก็จะปรับเงินไปตามฐานความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ที่ระบุไว้ เช่นในวันนี้ที่พบรถแท็กซี่ป้ายแดงที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นป้ายเหลืองและยังไม่ได้นำรถไปตรวจสภาพ ซึ่งก็ปรับไป1,000บาท โดยผู้ขับรถแท็กซี่ ระบุว่า จำเป็นที่ต้องนำมาวิ่ง เพราะหากจอดทิ้งไว้ก็ต้องเสียค่างวดรถ จึงต้องนำมาวิ่งหารายได้และยอมที่จะเสียค่าปรับไปก่อนจนกว่าจะได้ป้ายเหลือง นอกจากนี้ยังพบรถแท็กซี่ขาดการตรวจรอบมิเตอร์อีกกว่า 3 คันซึ่งก็ปรับคันละ 1,000บาท รวมทั้งยังพบการแต่งกายไม่ถูกต้องตามระเบียบที่ต้องใส่กางเกงขายาว เสื้อสีฟ้า และรถขาดการต่อรอบภาษีประจำปีซึ่งต้องเสียค่าปรับเท่ากันที่ 500 บาท อย่างไรก็ดีพบว่ารถแท็กซี่ที่ถูกปรับในวันนี้ทุกคันมักทำการต่อรองราคาให้เจ้าหน้าที่ลดค่าปรับและขอร้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ โดยอ้างว่าตัวเองไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมการขนส่ง ก็ไม่ยินยอมลดค่าปรับให้ เพราะเป็นการทำตามหน้าที่ และได้ออกใบสั่งให้ไปจ่ายที่กรมการขนส่งทางบกแทน ซึ่งทำให้แท็กซี่บางคันก็ยอมที่จะจ่ายค่าปรับ แต่บางคันก็รับใบสั่งไปจ่ายที่กรมการขนส่งทางบกแทน โดยไม่พบว่ารถแท็กซี่มีปฎิกิริยาที่ไม่สุภาพ





สำหรับการจ่ายค่าปรับถ้าเป็นเกี่ยวกับสภาพรถก็อาจเป็นเจ้าของอู่รถเป็นผู้เสียค่าปรับแต่หากเป็นความผิดส่วนบุคคลก็ต้องเป็นผู้ขับรถเป็นผู้เสียค่าปรับเอง ส่วนการปฎิเสธผู้โดยสารพบว่าบริเวณอาคารผู้โดยสารในประเทศขาออกแทบไม่มีการปฎิเสธผู้โดยสารและพบน้อยลงกว่าอดีตมาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เข้ามากวดขันและรถแท็กซี่ส่วนใหญ่ก็ตั้งใจมาส่งและรับผู้โดยสารออกไปอยู่แล้ว ทั้งนี้บริเวณดังกล่าวรถแท็กซี่ไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตเข้ามารับผู้โดยสารเหมือนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้านการร้องเรียนมายังสายด่วน 1584 แล้วพบว่าเรื่องไม่คืบหน้า ยืนยันว่า กรมการขนส่งฯให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว และประชาชนสามารถโทรไปตามความคืบหน้าได้ ยืนยันว่าการทำความผิดของแท็กซี่สามารถไล่ตามตัวได้ทุกคัน เพราะเจ้าหน้าที่จะไล่ดูตามทะเบียนรถและเรียกเจ้าของกรรมสิทธิ์นั้นมาตรวจสอบถึงการทำความผิดต่อไป



ธีรวัฒน์ 

ข่าวทั้งหมด

X