ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า กองบัญชาการกลางกองทัพอากาศสหรัฐฯ (US Air Forces Central)โพสต์แถลงการณ์ทางสื่อสังคมออนไลน์ว่า สหรัฐฯได้ส่งเครื่องบินรบรุ่น F-15E และเครื่องจู่โจมรุ่น A-10 ไปยังตะวันออกกลาง ระบุว่า กองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบินรบจากฝูงบินรบที่ 494 และฝูงบินรบที่ 354 ของสหรัฐฯไปยังตะวันออกกลาง เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บให้กับฝูงบินสหรัฐฯประจำฐานทัพต่างๆในตะวันออกกลาง จะทำให้สหรัฐฯและพันธมิตร สามารถจะปฏิบัติการทางอากาศครอบคลุมทั้งภูมิภาค แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเรื่องจำนวนเครื่องบินรบที่สหรัฐฯส่งไปยังตะวันออกกลาง
พล.อ.ท. อเล็กซัส กรินเควิช (Alexus Grynkewich) ผู้บัญชาการกองทัพอากาศหน่วยที่ 9 ของสหรัฐฯระบุในแถลงการณ์ว่า การเสริมเครื่องบินรบของสหรัฐฯ และการผสานความร่วมมือกับชาติพันธมิตรของสหรัฐฯในตะวันออกกลาง จะช่วยให้สหรัฐฯและพันธมิตรดูแลความมั่นคงอย่างมีประสิทธิภาพทั่วทั้งภูมิภาค
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯเปิดเผยว่า พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ มีคำสั่งเมื่อวันศุกร์ ให้ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 2 คือเรือ ยูเอสเอส ดไวท์ ดี ไอเซนฮาว (USS Dwight D. Eisenhower) พร้อมกองเรือสนับสนุนคือ เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถี 1 ลำและเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิธีอีก 2 ลำ จากเมืองนอร์ฟอล์ค รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐฯแล่นไปยังตะวันออกของทะเลเมดิเตอเรเนียน ใกล้อิสราเอล ต่อเนื่องจากการส่งเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกคือเรือ ยูเอสเอส เจอรัลด์ อาร์. ฟอร์ด (USS Gerald R. Ford)ไปยังภูมิภาคนั้นเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน ขณะที่อิสราเอลเตรียมขยายพื้นที่บุกยังเขตฉนวนกาซาทั้งทางทะเล ทางอากาศและทางบก
แถลงการณ์ระบุว่า เรือ ยูเอสเอส ดไวท์ ดี ไอเซนฮาว อยู่ระหว่างมุ่งหน้ามายังทะเลเมดิเตอเรเนียน ซึ่งเปลี่ยนจากแผนเดิมซึ่งสหรัฐฯเตรียมส่งเรือ ยูเอสเอส ดไวท์ ดี ไอเซนฮาว ไปประจำการยังหน่วยบัญชาการสหรัฐฯประจำภาคพื้นยุโรป
ทั้งนี้เรือรบทั้ง 2 ลำของสหรัฐฯไม่ได้มีเป้าหมายจะเข้าร่วมสู้รบในเขตฉนวนกาซา หรือเข้าร่วมปฏิบัติการโจมตีกลุ่มฮามาสของอิสราเอลโดยตรง แต่การที่กองทัพเรือสหรัฐฯส่งเรือรบทั้ง 2 ลำ เข้าไปใกล้อิสราเอล เพื่อส่งสัญญาณเตือนไปถึงอิหร่านและพันธมิตรอิหร่านในภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่น กลุ่มเฮซโบลเลาะห์ในเลบานอน ไม่ให้เข้ามาช่วยกลุ่มฮามาสในการสู้รบกับอิสราเอล
#สหรัฐเสริมทัพในตะวันออกกลาง