ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ขณะที่นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)เชิญ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ร่วมแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนในสำนักงานใหญ่ของนาโตในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียมในวันนี้ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของนายเซเลนสกีค่อยๆเปลี่ยนมาเป็นสีหน้าเศร้าอย่างรวดเร็ว แม้ว่าครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่นายเซเลนสกีเดินทางมาที่สำนักงานใหญ่ของนาโตในกรุงบรัสเซลส์นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน
ประธานาธิบดียูเครน ต้องการดึงความสนใจของคนทั่วโลก ที่จับตาหลังกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์บุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ มีชาวยูเครนเสียชีวิต 7 ราย โดยนายเซเลนสกี บอกว่า รัสเซียและกลุ่มฮามาสอยู่ในกลุ่มเดียวกันคือ ผู้ก่อการร้าย ซึ่งพวกเราอยู่ในภาวะสงครามเดียวกัน พวกเราเข้าใจอย่างดีว่า ความทุกข์จากการถูกโจมตีของผู้ก่อการร้ายหนักหนาสาหัสขนาดไหน
นายเซเลนสกี กล่าวว่า เขายังจำเหตุการณ์วันแรกที่รัสเซียบุกยูเครน ซึ่งมีชาวยูเครนหลายคนเสียชีวิต เป็นเรื่องสำคัญมากที่ทุกคนไม่ควรปล่อยให้ยูเครนเผชิญกับชะตากรรมเช่นนี้เพียงลำพัง ดังนั้นข้อเสนอแนะของเขาสำหรับบรรดาผู้นำนาโตคือ การเยือนอิสราเอล เพื่อให้กำลังใจแก่ประชาชนในอิสราเอล พร้อมกล่าวหารัสเซียได้ประโยชน์จากปัญหาขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
ทั้งนี้ การเยือนกรุงบรัสเซลส์ของนายเซเลนสกี เพื่อให้พันธมิตรเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือด้านอาวุธแก่ยูเครน ในระหว่างที่นาโตเป็นเจ้าภาพจัดประชุม 54 ประเทศพันธมิตรที่ให้การช่วยเหลืออาวุธสำหรับยูเครน(Ukraine Defense Contact Group) ยุทธการโต้กลับของยูเครนเพื่อชิงดินแดนคืนจากรัสเซียดำเนินการอย่างล่าช้า จนเข้าสู่เดือนที่ 7 แล้ว และยืดเยื้อไปจนถึงฤดูหนาวปลายปีนี้ ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า รัสเซียอาจจะฉวยโอกาสโจมตีโรงไฟฟ้าของยูเครนดั่งเช่นในปีที่แล้ว พร้อมทั้งใช้อากาศหนาวเป็นเงื่อนไขกดดันให้กองกำลังยูเครนยอมถอยทัพชั่วคราว
ผู้นำยูเครนต้องการจะย้ำให้พันธมิตรในยุโรปทราบว่า ช่วงเวลานี้มีความสำคัญสำหรับยูเครน หลังจากภาวะเหนื่อยล้าของพันธมิตรชาติตะวันตกเริ่มปรากฏให้เห็น หลังสงครามในยูเครนยืดเยื้อมากว่า 1 ปี 6 เดือนแล้ว ขณะเดียวกัน ขณะนี้ความสนใจของคนทั่วโลกจับจ้องไปอยู่ที่ตะวันออกกลาง คือ การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสมากกว่าสนใจข่าวการบุกยูเครนของรัสเซีย
นอกจากนั้น การที่สหรัฐฯหันมาสนใจเรื่องความมั่นคงของอิสราเอลอย่างฉับพลันทำให้รัฐบาลยูเครนหวั่นวิตกว่า งบช่วยเหลือด้านอาวุธจากสหรัฐฯอาจจะยิ่งล่าช้าอีกหลายเดือน แม้ว่าก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯให้คำมั่นกับนายเซเลนสกีว่า การสนับสนุนด้านงบจัดซื้ออาวุธสำหรับยูเครนจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าสภาคองเกรสสหรัฐฯมีมติรับรองร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม เพื่อให้รัฐบาลสหรัฐฯมีงบอุดหนุนการบริหารงานต่อไปอีก 45 วัน ไม่ต้องปิดหน่วยงานชั่วคราว โดยไม่มีการอนุมัติงบสนับสนุนด้านอาวุธเพิ่มเติมสำหรับยูเครน
#สถานการณ์ยูเครน