หลังเกิดเหตุยิงประชาชนในห้างสรรพสินค้า ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความปลอดภัยของประชาชน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมายและระดมกำลังทั่วประเทศร่วมกันกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงวันที่ 9-11 ต.ค. 66 โดยมีเป้าหมายหลัก เป็นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืน และการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย ทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ อีกทั้ง ดำเนินมาตรการเชิงรุก เร่งปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์ทุกประเภทที่มีการลักลอบซื้อขาย ดัดแปลงแก้ไข อาวุธปืนผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกกองบัญชาการได้ร่วมกันลงพื้นที่ ตรวจค้นเป้าหมายทั่วประเทศทั้งสิ้น 3,224 จุด เพื่อสืบสวนหาเบาะแสผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้อง จนนำมาสู่การขออำนาจศาลออกหมายค้น และเข้าตรวจค้นผู้มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการจำหน่าย ดัดแปลง ซื้อขาย และเกี่ยวข้องกับอาวุธปืนอาวุธสงคราม จับกุมผู้กระทำผิดกว่า 1,593 คน และตรวจยึดอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมายจำนวนมาก ตั้งเป้าลดความรุนแรงของอาชญากรรมและการกระทำผิดกฎหมาย ยึดของกลางได้ ประกอบด้วย
1. อาวุธปืนไม่มีหมายเลขทะเบียน แบลงค์กัน และบีบีกัน จำนวน 1,789 กระบอก
2. อาวุธปืน มีหมายเลขทะเบียนซึ่งเป็นของบุคคลอื่น (ปืนผิดมือ) จำนวน 219 กระบอก
3.เครื่องกระสุนปืน จำนวน 75,973 นัด
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ ยังได้สั่งการให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์ ที่กระทำความผิดเกี่ยวข้องกับอาวุธปืน อันเป็นช่องทางในการซื้อขายอาวุธปืนผิดกฎหมาย มีผลการดำเนินการดังนี้
1. Facebook จำนวน 79 บัญชี
2. Tiktok จำนวน 14 บัญชี
3. X (Twitter) จำนวน 148 บัญชี
4. Youtube จำนวน 26 ช่อง
5. Instagram จำนวน 14 บัญชี รวมจำนวนทั้งสิ้น 291 รายการ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ เชื่อว่า การกวาดล้างผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนพร้อมกันทั่วประเทศอยู่เสมอ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้เป็นจำนวนมาก เชื่อมั่นว่าจะทำให้ความรุนแรงของอาชญากรรมและการกระทำผิดกฎหมายลดลง อย่างแน่นอน อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่น ในความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งต่อพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักลงทุนจากต่างประเทศ อันจะส่งผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศ การระดมกวาดล้างอาวุธปืนทั่วประเทศจนทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดอาวุธปืนจำนวนมากในครั้งนี้ หากประชาชนมีเบาะแส-เรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับเรื่องอาชญากรรม หรือเรื่องอื่นๆ สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน 191 หรือ สายด่วน 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
#ทลายค้าอาวุธ