เตรียมเที่ยวบินเพิ่ม อพยพคนไทย 18 ต.ค. ไทย-อิสราเอล เร่งพิสูจน์ตัวตนผู้เสียชีวิต

             นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ  และ น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล แถลงรายละเอียดสถานการณ์การให้ความช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอลว่า

             ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 12 ราย เป็น 18 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บ 9 คน และถูกจับเป็นตัวประกัน 11 คน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ และ อิสราเอล กำลังเร่งพิสูจน์รายละเอียดของผู้เสียชีวิต โดยทางการไทย ระบุว่า แม้จะได้รับรายงานจากนายจ้าง แต่ก็ต้องการคำยืนยันจากอิสราเอล ขณะที่ อิสราเอล ระบุว่า ขอจัดลำดับความสำคัญ ขอให้ความช่วยเหลือคนที่อยู่ในพื้นที่สู้รบที่มีความเสี่ยงสูงสุดก่อน  

             ขณะที่ กองทัพอิสราเอล อพยพประชาชนแรงงานไทยออกจากพื้นที่เสี่ยงสูงสุดรอบฉนวนกาซา จากเดิม 76 คน เป็นหลายร้อยคน ไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย พร้อมทั้งร่วมมือกับองค์กรเอกชนและตำรวจอิสราเอล ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า เพื่อติดตามคนที่หายและคนที่ติดต่อไม่ได้ สถานทูตไทยที่กรุงเทลอาวีฟ ร่วมมือกับตำรวจ ส่งรายชื่อคนที่ญาติติดต่อไม่ได้  ส่วนสถานทูตไทยที่มาเลเซีย และสถานทูตประเทศอื่นๆในภูมิภาค ได้พูดคุยกับฝ่ายปาเลสไตน์ หาทางยุติเหตุรุนแรง

             เมื่อช่วงค่ำวานนี้ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โทรศัพท์พูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลๆแสดงความเสียใจและให้คำมั่นว่าจะพยายามดูแลคนไทยอย่างดีที่สุด มั่นใจว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ ยืนยันว่าจะดูแลคนทุกชาติเหมือนคนอิสราเอล

            กรณีกลุ่มฮามาส ระบุว่า จะสังหารตัวประกัน กระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า หารือกับฝ่ายต่างๆ แล้วกลุ่มฮามาส ไม่น่าจะทำร้ายคนต่างชาติ เนื่องจาก ไม่เกี่ยวข้อง เป็นการขยายความขัดแย้งเพิ่มเติม

            ส่วนการเดินทางกลับไทยกลุ่มแรก ขอให้ความมั่นใจว่า จะเดินทางออกจากอิสราเอลวันที่ 11 ต.ค.66 เวลา 21.45 น. ด้วยสายการบิน อิสราเอล แอร์ไลน์ เที่ยวบิน LY 083 ทั้งหมด 15 คน ไม่แยกเป็นสองเที่ยวบินแล้ว เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิวันที่ 12 ต.ค.66 เวลา 10.35 น. นอกจากนี้ จะมีการจัดเที่ยวบินอพยพเพิ่มเติม คาดว่าจะเป็นวันที่ 18 ต.ค. 66 จำนวน 80 ที่นั่ง ล่าสุด มีคนเดินทางกลับเพิ่มขึ้นเป็น 3,226 คน กระทรวงการต่างประเทศ ประสานกับนายจ้าง เรื่องการเดินทาง และจะตั้งเคาท์เตอร์ออกเอกสารให้ที่สนามบิน

            น.ส.พรรณนภา เปิดเผยว่า การเดินทางในช่วงนี้ไม่ได้เดินทางง่าย เนื่องจาก พื้นที่ในแถบที่ใกล้กับกาซา ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทาง แต่จะพยายาม ช่วยให้ได้มากที่สุด หากคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับไม่สามารถลงทะเบียนตามแบบฟอร์มได้ ขอให้โทรมาแจ้งและจะเพิ่มคู่สาย เป็นสายด่วนเพิ่มขึ้น หรือใครที่อยากติดต่อสถานทูตและฝากข้อความในกล่องข้อความจะมีอีกทีมที่จะโทรกลับ

           ขณะนี้ เริ่มมีหลายประเทศในยุโรป ใช้เครื่องบินทหารและเครื่องบินพาณิชย์ อพยพประชาชนของตัวเอง เช่น  โปแลนด์ คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 ต.ค.66 นอกจากนี้ยังมีกรีซ โรมาเนีย เซอร์เบีย โคโซโว มาเซโดเนีย เป็นต้น  ขณะที่ บราซิล และ ชิลี อยู่ระหว่างดำเนินการ

          สถานการณ์ในฉนวนกาซายังมีความรุนแรง ทั้งสองฝ่ายยังปะทะกัน อิสราเอล ยึดคืนพื้นที่ มีการตัดน้ำ ตัดไฟ กระฉับพื้นที่ ก่อนหน้านั้นได้เคลื่อนย้ายประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัย แต่การสู้รบขยายวงกว้างออกไปในพื้นที่ของเทลอาวี และเยรูซาเล็ม ระดมกำลังกองหนุนกว่าสามแสนคน เป็นการระดมพลครั้งที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอล

#ช่วยคนไทยในอิสราเอล