สถานการณ์ในฉนวนกาซา อิสราเอล กระทบต่อคนไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉิน เกี่ยวกับความคืบหน้าสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล โดยมี นพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการ นายกรัฐมนตรี และนายจักรพงษ์ แสงมณี รมช. กระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม พร้อมด้วยน.ส. พรรณภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ร่วมประชุมออนไลน์เพื่อสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ โดยเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เปิดเผยว่า สถานการณ์บริเวณฉนวนกาซายังรุนแรง และทางการอิสราเอลไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าพื้นที่ และไม่อนุญาตให้ประชาชนออกจากเคหสถานโดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ อินเทอร์เน็ตในพื้นที่ฉนวนกาซายังใช้ไม่ได้ จึงสามารถติดต่อแรงงานได้เฉพาะผ่านเบอร์โทรศัพท์ อย่างไรก็ดีสำหรับ คนไทยนอกพื้นที่ ยังไม่ได้รับผลกระทบและปลอดภัยดี
ขณะนี้ มีรายงานเบื้องต้นว่า มีคนไทยได้รับบาดเจ็บ 8 คน ผู้เสียชีวิต 2 คน (ที่ได้รับการยืนยันจากทางการ 1 คน) และได้รับแจ้งจากนายจ้างว่าเสียชีวิตอีกจำนวนหนึ่ง แต่สถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างรอยืนยันข้อมูลเพิ่มเติม
ล่าสุด นายจักรพงษ์ ระบุว่า นายจ้างได้ยืนยันจำนวนแรงงานไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก10ราย รวมยอดเสียชีวิต 12 ราย และแรงงานไทยถูกจับกุมไป 11 คน ซึ่งสถานทูตอยู่ระหว่างประสานทางการอิสราเอลเพื่อยืนยันข้อมูลและให้การช่วยเหลือ
ที่ประชุมได้ซักซ้อมหารือแผนการอพยพและแผนการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ แม้ขณะนี้ จะยังไม่มีประเทศใดทำการอพยพ แต่ทางการไทยจะเตรียมการไว้เมื่อสถานการณ์จำเป็น เพื่อให้สามารถดำเนินการได้โดยเร็วเมื่อถึงเวลา รวมทั้งต้องเป็นไปตามความประสงค์ของพี่น้องแรงงานไทยด้วยว่าจะเดินทางกลับหรือไม่
ทั้งนี้ รัฐบาลจะติดตามพัฒนาการอย่างใกล้ชิดและดูแลคนไทยในพื้นที่ รวมทั้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปติดต่อครอบครัวและญาติทางไทยด้วยแล้ว
กระทรวงต่างประเทศ ยังได้สั่งการให้ สอท. ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประสาน สนง. ปาเลสไตน์ที่มาเลเซีย เพื่อแสดงความห่วงกังวลกับสถานการณ์และให้ประสานในการปล่อยตัวคนไทย ทั้งนี้ จะมีการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อติดตามสถานการณ์รายวันต่อไป
#อิสราเอล
#ปาเลสไตน์
#ช่วยคนไทย