ชาวอังกฤษผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เริ่มทยอยใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั่วไป ซึ่งเปิดคูหาเลือกตั้งในเวลา 7.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ประมาณ 50,000 คูหาเลือกตั้ง และมีผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 50 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม ยังมีการเผยแพร่ผลการสำรวจคะแนนนิยมในช่วงนาทีสุดท้ายก่อนที่จะมีการบังคับใช้กฎหมายห้ามการเผยแพร่ผลการสำรวจคะแนนนิยม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพรรคแรงงานกับพรรคอนุรักษ์นิยมที่เป็นคู่แข่งกันมานาน จะยังคงต้องขับเคี่ยวกันอย่างหนักต่อไป จากที่ตลอดเวลาในการหาเสียง นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมอรอน ผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยม กับนายเอ็ด มิลลิแบนด์ ผู้นำพรรคแรงงานต่างก็ใช้ถ้อยคำอภิปรายตอบโต้กันมาตลอด
ทั้งนี้ในรายงาน ผลการสำรวจปรากฏว่ามีหลายสำนักที่ชี้ว่า ทั้ง 2 พรรคจะมีคะแนนใกล้เคียงกัน หรือพรรครัฐบาลมีคะแนนนำเพียงเล็กน้อย เว้นแต่ของสำนักพาเนลเบส ที่ชี้ว่า พรรคแรงงานจะมีคะแนนที่ดีกว่าคือร้อยละ 33 ส่วนพรรคอนุรักษ์นิยมมีร้อยละ 31 อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งร้อยละ 4 ที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคใด หรือ อาจเปลี่ยนใจ ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์จาก สถาบันวิจัยทีเอ็นเอส เห็นว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาจะทำให้อังกฤษเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะไม่มีพรรคใดสามารถครองเสียงส่วนใหญ่ของ 650 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร และจะทำให้มีรัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2517 และการเจรจาต่อรองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมอาจใช้เวลาหลายวัน หรืออาจจะหลายสัปดาห์