ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มต่อเนื่องหลัง EIA เผยตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดมากสุดนับแต่เดือน ก.ย. 57 ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสเท็กซัสต์เปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาปิดที่ระดับ 67.77 และ 60.93 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบารร์เรล นายมนูญ ศิริวรรณ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน สภาปฎิรูปแห่งชาติหรือ สปช. เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นมา 1 เดือนแล้ว ประมาณ ร้อยละ20-25 สาเหตุมาจากความกังวลในตะวันออกกลาง เยเมน อิรัก ซึ่งกระทบต่อส่งน้ำมัน เพราะอยู่ติดเส้นทางเดินเรือที่เรือบรรทุกน้ำมันต้องผ่าน สัปดาห์ที่แล้วสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลง จากแต่เดิมที่ผลิตได้มาก การลดกำลังผลิตน้ำมันลง รวมปัจจัยค่าเงินดอลล่าร์ อ่อนค่าลง ทำให้การลงทุนในน้ำมันเพิ่มขึ้น ในอนาคตแนวโน้มราคาคงเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก ขณะนี้อยู่ 60-65 เหรียญสหรัฐ คาดว่ารอบนี้คงจะไม่เกิน 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แนวโน้มที่จะลดลงอีกครั้งในไตรมาส 3 และเพิ่มขึ้นอีกครั้งไตรมาส 4 ราคาปลีกคงจะขยับไปอีกไม่มาก ไม่เกิน 1 บ.ต่อลิตร ในวันนี้ มีบริษัทน้ำมันต่างประเทศบางบริษัทขึ้นราคาน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ไปแล้ว 60 สต./ลิตร หลังจากนี้ราคาน้ำมันจะไม่ลงต่ำกว่าที่เคยลงไปอีกแล้ว ถือว่าเป็นจุดต่ำสุดแล้ว
ตลาดยังคงมีความกังวลต่อเนื่องเกี่ยวกับอุปทานล้นตลาดหลังกลุ่มประเทศโอเปก (OPEC)ไม่มีทีท่าที่จะปรับลดกำลังการผลิตภายในเดือน มิ.ย. หากประเทศนอกกลุมโอเปก (non-OPEC) อย่างรัสเซีย ไม่ยอมให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตด้วยเช่นกัน โดยการประชุมโอเปกครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในวันที่ 5 มิ.ย. 58 ข้อมูลด้านอุปทานจากกลุ่มประเทศโอเปกและองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เผยว่าน้ำมันถูกป้อนเข้าสู่ตลาดราว 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน มากกว่าที่ความต้องการใช้น้ำมันดิบของโลก ซึ่งสาเหตุหลักยังคงมาจากการผลิตน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่องของ สหรัฐฯ