การดำเนินคดีคนขายอาวุธปืนดัดแปลงและคนขายกระสุนปืน ให้กับผู้ก่อเหตุยิงในห้าง หลังตำรวจ สน.ยานนาวา ขอศาลออกหมายจับกุม
พันตำรวจเอก กันตภณ โพธิ์อ๊ะ ผู้กำกับการ สน.ยานนาวา เปิดเผยว่า เมื่อคืนเป็นการสอบปากคำภาพรวมคดีกราดยิง ที่ร่วมกับ สน.ปทุมวัน สอบผู้ต้องหา 3 คน ประเด็นเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เป็นคนขายอาวุธ และกระสุนให้เด็กชายนำไปก่อเหตุหรือไม่ ซึ่งก็ใช้เวลาเกือบตลอดทั้งคืน ส่วนคดีของ สน.ยานนาวา จะเริ่มสอบปากคำตั้งแต่เช้าวันนี้ ก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง โดยในชั้นจับกุม นายสุวรรณหงษ์ และ นายอัครวิชญ์ 2 พ่อลูกบุญธรรม ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วน นายปิยะบุตร ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
จากการสืบสวน พบว่า นายปิยะบุตร ขายกระสุนปืนให้กับผู้ก่อเหตุครั้งแรก เมื่อวันที่ 20 กันยายน เป็นกระสุนปืนขนาด 9 มม. 1 กล่อง ราคา 1,800 บาท / ครั้งที่ 2 วันที่ 25 กันยายน ขายแม็กกาซีน หรือซองบรรจุกระสุน ราคา 1,020 บาท และครั้งที่ 3 วันที่ 1 ตุลาคม ขายกระสุนปืนขนาด 380 1 กล่อง ราคา 2,820 บาท
ส่วนปืนแบลงค์กันที่สั่งซื้อ ได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร นายสุรรณหงษ์ ไปเมื่อวันที่ 21 กันยายน ก่อนที่เด็กชายจะได้รับพัสดุในวันที่ 27 กันยายน ซึ่งเด็กชายยังได้ส่งภาพไปให้ผู้ขายดู และได้รับการตอบกลับมาว่า "ขอให้สนุกกับของเล่นนะครับ"
นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ไปขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่เกี่ยวข้องกับการ ซื้อ-ขาย อาวุธปืนให้กับเด็กชายผู้ก่อเหตุ พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่าจะมีการออกหมายจับจริง เป็นการขยายผลจากเส้นทางการเงินที่ ผู้ก่อเหตุโอนเงินไป ส่วนจะเป็นใคร อยู่ในพื้นที่ใด ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้
#ยิงในห้าง
#ฝากขัง
#ออกหมายจับเพิ่ม
แฟ้มภาพ