การจับผู้ต้องหาลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม นายเก๊ง สัญชาติไทย สถานที่จับกุม บริเวณ หมู่ที่ 3 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ในฐานความผิด
1.รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม
2.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
3.ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรฯ
4.ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่
นอกจากนี้ แจ้งข้อกล่าวหา แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 5 ราย ในฐานความผิด “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ออกตรวจในพื้นที่ที่รับผิดชอบ พบรถกระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีขาว ขับผ่านมา โดยมีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ปกติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่เมื่อรถคันดังกล่าวพบเห็นรถยนต์ตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ขับหลบหนีด้วยการเพิ่มความเร็ว ขับหลบหนีไปตามถนนทางหลักและทางชนบท ในขณะที่มีรถยนต์ของประชาชนผู้สัญจรไป-มา รถคันดังกล่าวได้ขับขี่หลบหนีด้วยความประมาทหวาดเสียวไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดรถคันดังกล่าวได้โดยมีบุคคลลงจากรถยนต์ 5-8 คน โดยได้วิ่งหนีเข้าไปในป่าหญ้าข้างทางที่รกร้างหลังจากนั้นได้ขับต่อไปอีกประมาณ 500 เมตรและได้ให้บุคคลลงจากรถยนต์อีกประมาณ 2-3 คน จากนั้นได้ขับเลี้ยวรถยนต์เข้าไปในบ้านของประชาชนในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้ว เบื้องต้นสอบถามชื่อ นายเก๊ง อายุ 19 ปี เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามเบื้องต้น ได้ความว่า ผู้ต้องหาได้ขับขี่รถยนต์บรรทุกแรงงานต่างด้าวจำนวน 11 คนและจอดรถตามจุดให้แรงงานต่างด้าวลงจากรถยนต์ โดยให้ไปหลบอยู่ที่ในป่าข้างทาง
จากนั้นได้ให้ผู้ต้องหาพาไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว เบื้องต้นพบแรงงานต่างด้าวจำนวน 5 คน เดินออกมาจากบริเวณในป่าข้างทางที่มีผู้ต้องหา เป็นคนจอดส่งลงจากรถ จากนั้นได้เชิญตัวผู้ต้องหาทั้งหมด มาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่าผู้ถูกจับที่ 2-6 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง
ผู้ต้องหา สัญชาติไทย ให้การว่าได้รับการประสานจากชายเมียนมา (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ประสานงานให้ไปรับแรงานต่างด้าวที่บริเวณป่าข้างทาง อ.เมืองตาก จ.ตาก จำนวน 11 คน เพื่อไปส่งในพื้นที่ปลายทาง ในพื้นที่ กรุงเทพฯ โดยได้รับค่าจ้าง 2,000 บาท/คน สอบถามผู้ถูกจับที่ 2-6 ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 13,000-20,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางบาล ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผลปฏิบัติภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล., สั่งการให้ พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. สนธิกำลังร่วมกับ กก.2 บก.ปทส. ดำเนินการ
#แก๊งลอบขนแรงงานต่างด้าว
CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)