เมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.66) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และ LINE ALERT แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำยม จ.สุโขทัย เพิ่มสูงขึ้น ระดับการแจ้งเตือนภัย : ระดับ 3 เสี่ยงอันตราย (สีเหลือง)
จากการติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณสถานี Y 33 อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เวลา 20.00 น.) ระดับน้ำบริเวณสถานี Y 33 สูงกว่าตลิ่ง 0.93 เมตร ส่งผลให้น้ำกัดเซาะถนนแนวริมแม่น้ำบริเวณบ้านวังใหญ่ ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ขาด ขอให้ประชาชนที่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำยม เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมเพื่ออพยพไปยังที่ปลอดภัยหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น และขอให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือแจ้งได้ที่สายด่วน 1784 หรือ ไลน์ "ปภ. รับแจ้งเหตุ 1784" (ID:@1784DDPM)
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุโขทัย รายงานว่า วันที่ 1 ต.ค. 66 เวลา 20.30 น. นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายวิศิษฐ์ เบญจพิทักษ์กุล ปลัดจังหวัดสุโขทัย มอบหมายให้กลุ่มงานความมั่นคง ที่ทำการปกครองจังหวัดสุโขทัย และสมาชิก บก.อส.จ.สท สนับสนุนการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัย กับฝ่ายความมั่นคงที่ทำการปกครองอำเภอศรีสำโรง สมาชิกกองร้อยอส.อ.ศรีสำโรง ที่ 2 เจ้าหน้าที่กู้ภัยเทพนิมิตร,อบต.วังใหญ่ และชาวบ้านร่วมกันกั้นกระสอบทรายกั้นน้ำ ที่ทะลักมาจากแม่น้ำยม บริเวณสะพานวังใหญ่ ม.6 ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง ขณะนี้ปริมาณน้ำยังคงตัว
ช่วงบ่ายวานนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ ม.1 ต.ปากแคว บริเวณพื้นที่น้ำยมกัดเซาะพนังกั้นน้ำ ทำให้บ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ ม.1-ม. 7 กว่า 300 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบ สั่งการให้ทำพนังกั้นน้ำถาวรในจุดนี้ ระยะทางประมาณ 1,700 เมตร แขวงการทางจังหวัดสุโขทัย นำแบริเออร์คอนกรีตมากั้นไว้ในบางช่วง เพื่อชะลอความแรงของน้ำ นอกจากนี้ สั่งการให้สำรวจบริเวณคอสะพาน 2 แห่ง ได้แก่ สะพานพระร่วง และ สะพานบางแก้ว เนื่องจากมีจุดที่คอสะพานชำรุด และน้ำไหลผ่านขึ้นมาบนพื้นผิวสะพาน เกรงว่าประชาชนที่สัญจรไปมาจะได้รับอันตรายหลังน้ำลด ในส่วนของพนังกั้นน้ำบริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยสูงกว่า 2 เมตร ซึ่งสร้างมานานแล้ว สั่งการให้เร่งสำรวจความแข็งแรง พบว่ามีความหนาประมาณ 20 เซนติเมตร หากรับน้ำปริมาณมากต่อเนื่อง จะทำให้เกิดอันตรายได้
จากนั้นนายสมศักดิ์ ร่วมประชุมกับนายสุชาติ ดร.พรรณสิริ กุลนารถศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุโขทัย เขต 1 รวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ห้องประชุมสนามบินสุโขทัย กล่าวว่า ลุ่มแม่น้ำยมเป็นแม่น้ำแห่งเดียวที่ไม่มีเขื่อนในการบริหารน้ำ และได้รับความเสียหายตั้งแต่ปี 2554 ต่อเนื่องถึงปีนี้ เป็นจำนวนเงินกว่า 6,470 ล้านบาท และตั้งแต่จังหวัดแพร่ถึงจังหวัดนครสวรรค์ ลงมาถึงกรุงเทพมหานคร ก็ได้รับผลกระทบต่อเนื่องทุกปี ซึ่งจะเร่งรัดการดำเนินการโครงการใหญ่ที่เกี่ยวข้อง เช่นการออกแบบผังน้ำแม่น้ำยมฝั่งขวา จากคลองน้ำโจน ไปลงทุ่งทะเลหลวง ไปยัง ต.ยางซ้าย ต.ปากพระ ของอำเภอเมือง ซึ่งมีการออกแบบไว้เบื้องต้นแล้ว
สถานการณ์ล่าสุด มวลน้ำยมได้หลากเข้าท่วมพื้นที่ตอนล่างของประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ตั้งแต่ อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมืองสุโขทัย และจุดวิกฤติยังคงอยู่ที่ ต.ปากแคว อ.เมือง และ ต.ราวต้นจันทน์ อ.ศรีสำโรง และยังคงต้องเฝ้าระวังมวลน้ำเพิ่มเติม ปริมาณกว่า 1,300 ลบ.ม./วินาที จาก อ.วังชิ้น จ.แพร่ ที่จะถึงสุโขทัยในวันนี้(2 ต.ค.66)
#เตือนระดับน้ำยม
#เสี่ยงอันตราย
#สุโขทัย
CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM,LINE ALERT,สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุโขทัย