รัฐบาลไทย วางกรอบ6เดือนแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย เร่งใช้มาตรา44 หลังจากที่สหภาพยุโรป (อียู)ให้ใบเหลืองเตือนไทย ประกอบกับการขุดพบศพชาวโรฮิงญาที่ลักลอบเข้าเมืองที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ทำให้ไทยถุกนานาชาติจับตามอง เนื่องจากถูกโยงถึงขบวนการค้ามนุษย์
หากมองย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นของสาเหตุ นายสมพงค์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน เล่าให้ฟังว่า อาจมาจาก2 สาเหตุหลัก คือ ภาคอุตสาหกรรมของไทยขาดแคลนแรงงานจึงต้องนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาทดแทน โดยเฉพาะแรงงานประมง งานอุสาหกรรมแปรรูปสินค้าทะเล เนื่องจากเป็นงานที่คนไทยไม่นิยมทำ รายได้น้อย ซึ่งรัฐบาล ก็ได้อนุโลมให้สามารถนำแรงงานต่างชาติที่ถูกต้องตามกฎหมายเช่นจากลาว กัมพูชาและพม่า ที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องเข้ามาทำงานได้ ส่วนสาเหตุที่สอง เป็นปัญหาสำคัญที่ไทยต้องเร่งแก้ในขณะนี้ คือ มีแรงงานจากหลายชาติทั้งจากเวียดนาม ,เนปาล ,ปากีสถาน ,อินเดีย ,รวมถึงชาวโรฮิงญา แอบลักลอบเข้ามาทำงานใช้แรงงานในประเทศไทย หรือใช้ไทยเป็นทางผ่านเพื่อเดินทางไปยังประเทศที่ 3 จากข้อมูลพบว่าปีหนึ่งมีถึงประมาณ 4-5ล้านคนเดินทางเข้ามาในไทย แรงงานผิดกฎหมายเหล่านี้ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อมาต่อสู้ในประเทศไทยที่มีรายได้สูง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าการทำงานอยู่ที่บ้านเกิด ส่วนผู้ที่เดินทางไปประเทศที่ 3ส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลที่มีญาติพี่น้อง หรือ เครือข่าย อยู่ที่ประเทศที่ 3 จึงใช้ไทยเป็นทางผ่านเพื่อเดินทางไปยังประเทศที่ 3 นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดปัญหาการลักลอบเข้าเมือง หรือจุดเริ่มต้นของการค้ามนุษย์ ที่มีการทำเป็นขบวนการมีนายหน้าทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ช่วงชิงโอกาสนี้หาผลประโยชน์กับแรงงานข้ามชาติ นับเป็นปัญหาสำคัญที่ไทยต้องเร่งแก้ไขตามกรอบเวลาที่อียูกำหนดในการปลดใบเหลือง
วิรวินท์