รอยเตอร์ รายงานว่า วุฒิสภาสหรัฐฯลงมติเมื่อวานนี้ด้วยเสียงส่วนใหญ่ 77-19 เสียง เห็นชอบให้มีการนำร่างกฎหมายที่ผ่านการแปรญัตติจากคณะกรรมาธิการร่วมของทั้งสองพรรคเข้าสู่การอภิปรายในที่ประชุมเต็มคณะของวุฒิสภา เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลมีปัญหาขัดข้องด้านงบประมาณ จนกระทั่งต้องประกาศชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบางแห่ง เมื่อเริ่มปีงบประมาณใหม่ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ร่างกฎหมายนี้มุ่งจะสนับสนุนด้านงบประมาณแก่รัฐบาลไปจนถึงวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ รวมถึงงบป้องกันภัยพิบัติในประเทศ 6,000 ล้านดอลลาร์และงบช่วยเหลืออาวุธแก่ยูเครน 6,000 ล้านดอลลาร์
สว.ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต และสว.มิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำวุฒิสภาเสียงข้างน้อยจากพรรครีพับลิกัน จะทำงานร่วมกัน เพื่อผลักดันให้ทั้งสองพรรคลงมติให้ความเห็นชอบเรื่องการอนุมัติงบประมาณระยะสั้นให้กับรัฐบาลกลาง
ขณะเดียวกัน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ ครองเสียงข้างมาก พยายามจะผลักดันร่างกฎหมายงบประมาณรวม 4 ฉบับ ตามนโยบายงบประมาณของพรรคเข้าสู่การอภิปรายของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯบอกกับนักข่าวว่า เขาจะเสนอให้สส.พรรครีพับลิกันสนับสนุนร่างกฎหมายเพื่ออนุมัติเงินสนับสนุนระยะสั้นแก่รัฐบาลสหรัฐฯเช่นเดียวกัน
แต่เขาต้องการจะกำหนดข้อจำกัดที่เข้มงวดมากขึ้นในการใช้งบประมาณเพื่อการควบคุมชายแดนและคนเข้าเมือง แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่ามีแนวโน้มสูงที่อาจจะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนในที่ประชุมสส. หรือสว.จากพรรคเดโมแครต นอกจากนั้น การจัดสรรงบประมาณตามกฎหมายทั้ง 4 ฉบับเสนอให้มีการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนเพียงหน่วยงานของรัฐหลักๆเท่านั้น ซึ่งจะไม่ช่วยป้องกันการชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐ หมายความว่า บางแห่งต้องถูกปิดทำการอยู่ดีเนื่องจากไม่มีงบประมาณ
ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายแมคคาร์ธี ต้องการจะเลี่ยงปัญหาชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐในปีนี้ ตามข้อตกลงในเดือนพฤษภาคม หลังทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเรื่องการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งสภาคองเกรสต้องทำการอนุมัติเป็นรายปีจำนวน 1.59 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณ 2567 ซึ่งเริ่มต้นในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
การที่พรรคการเมืองทั้งสองต่างคานอำนาจกันในสภาทั้งสองเช่นนี้ บ่งชี้ว่า รัฐบาลกลางของสหรัฐฯมีแนวโน้มสูงมากที่จะต้องชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 10 ปีในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งอาจจะทำให้นักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ประเมินเรื่องเครดิตของรัฐบาลสหรัฐฯในแง่ลบ
#สภาคองเกรสสหรัฐฯ
#ร่างกฎหมายงบประมาณปี67