ซีเอ็นเอ็นอ้างนายกริกอริจ เมเซสนิคอฟ นักวิเคราะห์การเมืองและประธานสถาบันกิจการสาธารณะของสโลวาเกียว่า สโลวาเกีย หนึ่งในสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)เตรียมจัดการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ในช่วงเวลาแค่ 4 ปีในวันที่ 30 กันยายนนี้ ขณะเดียวกัน พรรคสเมอร์ (SMER) พรรคฝ่ายค้านของอดีตนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก ซึ่งฝักใฝ่รัสเซียมีคะแนนนำในการสำรวจของโพลล์เมื่อเร็วๆนี้ โดยสำนักโพลล์โกลบเซค (GlobSec) ทำให้ชาติตะวันตกเริ่มจับตามองการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยความรู้สึกกังวล
นับแต่รัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว สโลวาเกีย เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่เหนียวแน่นของยูเครนมาโดยตลอด ทั้งนี้ ประเทศทั้งสองมีชายแดนติดต่อกัน โดยสโลวาเกียเป็นประเทศแรกที่จัดส่งระบบป้องกันทางอากาศไปให้กับยูเครน พร้อมทั้งเปิดชายแดนรับผู้อพยพกว่า 100,000 คนจากยูเครน แต่นโยบายต่างๆเหล่านี้จะเปลี่ยนไป ถ้าหากนายฟิโกชนะการเลือกตั้ง
ที่ผ่านมา นายฟิโกแสดงความเห็นอย่างเปิดเผยว่าเขาสนับสนุนรัสเซียและตำหนิกลุ่มนักการเมืองฝักใฝ่ลัทธินาซีและลัทธิฟาสซิสต์ของยูเครนเป็นต้นเหตุให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียไม่พอใจกระทั่งประกาศส่งกำลังทหารบุกยูเครน ซึ่งเป็นการย้ำคำอ้างเดียวกับนายปูตินเคยยกมาเป็นเหตุผลในการบุกยูเครน
นายฟิโกขอให้รัฐบาลสโลวาเกียหยุดส่งอาวุธไปให้กับยูเครน ระบุว่าถ้าเขาชนะการเลือกตั้ง กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สโลวาเกียจะไม่ส่งอาวุธและกระสุนไปให้กับยูเครนอีกต่อไป เพราะจะทำให้การสู้รบในยูเครนยืดเยื้อ ไม่สิ้นสุดในอนาคตอันใกล้ พร้อมทั้งคัดค้านการสมัครเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน
สำหรับนายฟิโก เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของสโลวาเกียมากว่า 10 ปี สมัยแรกระหว่างปี 2549-2553 และสมัยที่ 2 ระหว่าง 2555-2561 โดยนายฟิโก ลาออกในปีเดือนมีนาคม 2561 หลังการประท้วงใหญ่หลายสัปดาห์ หลังเกิดเหตุสังหารนายแจน คูเซียค นักข่าวเชิงสอบสวน เสียชีวิตในบ้าน พร้อม น.ส.มาร์ตินา คุสนีโรวา คู่หมั้น สำหรับนายคูเซียค ทำข่าวเปิดโปงการทุจริตของเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงนายฟิโกและพรรคสเมอร์
#สโลวาเกีย
#เลือกตั้ง