เสริมกระสอบทราย วางแนวกั้นน้ำมูล ไหลท่วมชุมชนท่ากอไผ่ อ.วารินชำราบ อุบลฯ

           การติดตามสถานการณ์ฝนในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันนี้ (27 ก.ย.66) กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานฝน 80% ของพื้นที่

           โครงการชลประทานอุบลราชธานี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำพร้อมทั้งนำกระสอบทราย จำนวน 500 ใบ ลงพื้นที่เพื่อวางแนวกั้นน้ำป้องกันและช่วยเหลือบ้านเรือนประชาชน ชุมชนท่ากอไผ่ อำเภอวารินชำราบ

         นายสัมพันธ์ เดือนศิริรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุบลราชธานี มอบหมายให้ นายมารุต องค์สถาพร หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน นายชานนท์ พันธุยา หัวหน้าฝ่ายช่างกล และเจ้าหน้าที่ชลประทาน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำพร้อมทั้งนำกระสอบทราย จำนวน 500 ใบ ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ เตรียมรับสถานการณ์น้ำ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำมูลเริ่มสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าน้ำในแม่น้ำมูลจะดันเข้ามาทางท่อระบายน้ำและอาจทำให้น้ำไหลเอ่อเข้าท่วมภายในชุมชนดังกล่าว

           ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกาศฉบับที่ 9 เมื่อช่วงเวลา 06.30 น.วันนี้ว่าในช่วงวันที่ 27-29 ก.ย.66 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีฝนตกหนัก

                    สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี รายงานว่า จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักมากในบางพื้นที่ของจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมบริเวณที่ลุ่มต่ำ บ้านเรือนที่อยู่อาศัยของประชาชน และพื้นที่การเกษตร

          ข้อมูล วันที่ 25 ก.ย.66 ระดับน้ำ แม่น้ำมูล ณ สถานีวัดน้ำ M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย ระดับตลิ่ง 112 ม.รทก.(เมตรเทียบกับระดับน้ำทะเลปานกลาง) ระดับปัจจุบัน 112.21 ม.รทก. เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 7 ซม. สูงกว่าตลิ่ง 21 ซม. มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากปริมาณฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) คาดว่า ในวันที่ 2 ต.ค.66 ระดับน้ำจะอยู่ที่ระดับ +112.84 ม.รทก.(สูงกว่าตลิ่ง 0.84 ม.) ซึ่งปริมาณน้ำจะล้นตลิ่งต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำบริเวณแนวฟันหลอและไหลหลากเข้าท่วมชุมชนที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ

           ก่อนหน้านี้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) ประกาศฉบับที่ 21/2566 เมื่อวันที่ 25 ก.ย.66  เรื่อง เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำบริเวณลุ่มน้ำชี-มูล ประกอบกับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำชี-มูล เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ รวมทั้งมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำปริมาณมาก โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำลำปาว ปริมาณน้ำคิดเป็นร้อยละ 102.67 ของความจุเก็บกัก จึงมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำ ในอัตราวันละ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร และจะปรับเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันไดจนถึงประมาณ 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนลำปาวมีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ด้านท้ายน้ำได้

*ขอให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมขัง บริเวณพื้นที่ด้านท้ายน้ำอ่างเก็บน้ำลำปาว ได้แก่ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ยางตลาด กมลาไสย ฆ้องชัย และ ร่องคำ จังหวัดกาฬสินธุ์

*พื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ สว่างวีระวงศ์ และพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี

#ฝนตก

#น้ำท่วม

#อุบลราชธานี

CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี,ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง