การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA)ในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องการบุกยูเครนของรัสเซียเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญ ซึ่งที่ประชุมอภิปรายอย่างกว้างขวาง พร้อมทั้งพาดพิงรัสเซียเป็นต้นเหตุของปัญหาวิกฤตความมั่นคงในยุโรป ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียปราศรัยต่อที่ประชุม UNGA เป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ และแถลงข่าวกับสื่อระหว่างประเทศในเวลาต่อมา ซึ่งมีเนื้อหาส่วนใหญ่วิจารณ์ชาติตะวันตก ซึ่งเขาเรียกว่า เป็นอาณาจักรแห่งการแพร่ข้อมูลเท็จ
โดยเฉพาะประเด็นเรื่องสงครามในยูเครน ซึ่งยืดเยื้อเข้าสู่ปีที่ 2 ขณะที่สหรัฐฯ สหราชอาณาจักรและชาติตะวันตกที่เป็นพันธมิตรของยูเครนยังคงให้การสนับสนุนด้านอาวุธแก่ยูเครนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายลาฟรอฟ กล่าวหาสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรและพันธมิตรอื่นๆทำสงครามโดยตรงกับรัสเซีย โดยใช้ชาวยูเครนเป็นเสมือนเครื่องมือต้านรัสเซีย โดยนายลาฟรอกบอกกับนักข่าวว่า เราสามารถจะเรียกสงครามในลักษณะนี้ว่า เป็นสงครามผสมผสาน (hybrid war)หลายรูปแบบ ทั้งสงครามจริงในสมรภูมิและสงครามด้านข้อมูลข่าวสาร แต่สงครามเช่นนี้ไม่อาจจะเปลี่ยนความเป็นจริง คือ ชนวนเหตุของความขัดแย้งที่แท้จริงระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก
สำหรับเรื่องแผนสันติภาพรัสเซีย-ยูเครนตามที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนปราศรัยต่อที่ประชุมยูเอ็นก่อนหน้านี้ ซึ่งผู้นำยูเครนเสนอให้รัสเซียคืนดินแดนทั้งหมด เช่น อ่าวไครเมีย ทางภาคใต้และเขตดอนบาส ทางภาคตะวันออกของยูเครน ทั้งให้รัสเซียเลิกขัดขวางความพยายามของยูเครนในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกในองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต) นายลาฟรอฟ กล่าวถึงข้อเสนอนั้นว่า เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ และเป็น 2 ประเด็นหลักที่รัสเซียคัดค้านมาตลอด
นอกจากนั้น นายลาฟรอฟ ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะกลับเข้าสู่ข้อตกลงให้เรือยูเครนส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำ หลังรัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงในเดือนกรกฎาคม โดยรัฐบาลรัสเซียระบุเหตุผลของการถอนตัวจากข้อตกลงนี้ว่า รัสเซียถูกหลอกลวงมาตลอด กล่าวหายูเครนและชาติตะวันตกไม่ทำตามเงื่อนไขของสัญญาอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรธนาคารรัสเซีย เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกปุ๋ยและสินค้าเกษตรของรัสเซียสู่ตลาดโลก
#ท่าทีรัสเซียต่อยูเครน
#การแถลงต่อยูเอ็น