บังกลาเทศ มีผู้ติดเชื้อไข้เลือดออกตั้งแต่ต้นปีทะลุ 181,000 ราย ส่วนไทยป่วยแล้ว 91,979 ราย

23 กันยายน 2566, 10:07น.


          กระทรวงสาธารณสุขของบังกลาเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ มีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกจำนวน 4 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตตั้งแต่ต้นปีนี้อยู่ที่ 879 ราย มีผู้ติดเชื้อไข้เลือดออกเมื่อวานนี้ 2,153 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อตั้งแต่ต้นปีนี้อยู่ที่ 181,852 ราย



          บังกลาเทศกำลังต่อสู้กับการระบาดของโรคไข้เลือดออกที่ร้ายแรงเป็นประวัติการณ์ โดยโรงพยาบาลต่างๆ พยายามหาพื้นที่รองรับผู้ป่วย เนื่องจากไข้เลือดออก แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในพื้นที่ ที่มีประชากรหนาแน่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศ กำลังประสบปัญหาในการหาพื้นที่รองรับการรักษาผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกจำนวนมาก  เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ประชาชนกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกในประเทศ ปีนี้นับเป็นปีที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดเป็นประวัติการณ์ครั้งแรกในปี 2543



          ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ประมาณการว่า ราวครึ่งหนึ่งของประชากรโลกมีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก และเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะพุ่งทำสถิติ



          โดยการศึกษาวิจัยขององค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การตัดไม้ทำลายป่า และการขยายตัวของเมือง เป็นสาเหตุหลักบางประการที่อยู่เบื้องหลังการระบาดของไวรัส เช่น ไข้เลือดออก เชื้อไวรัสซิกา และโรคชิคุนกุนยา หรือ โรคไข้ปวดข้อยุงลาย ที่ระบาดอยู่ทั่วโลก



          นายรามัน เวลายุธัน หัวหน้าหน่วยของโครงการการควบคุมโรคเขตร้อน ของ WHO กล่าวว่า ปัจจุบัน มีประมาณ 129 ประเทศที่เสี่ยงต่อโรคไข้เลือดออก และเป็นโรคเฉพาะถิ่นในกว่า 100 ประเทศ เฉพาะในทวีปอเมริกาใต้ โรคไข้เลือดออกกำลังเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ สู่ประเทศต่างๆ เช่น โบลิเวีย เปรู และปารากวัย  



          การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทำให้ปริมาณน้ำฝน อุณหภูมิ และความชื้นเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ทำให้ยุงเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ได้ดี  ขณะที่ มีการวิจัยใหม่ที่แสดงให้เห็นว่า แม้ในสภาพอากาศที่แห้ง ยุงก็ยังสามารถผสมพันธุ์ได้ โดยนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า สภาพอากาศที่แห้งจะส่งผลให้ยุงกระหายน้ำ และเมื่อพวกมันขาดน้ำ ยุงต้องการที่จะดูดเลือดบ่อยขึ้น



          การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีบทบาทสำคัญ ที่เอื้อให้เกิดการแพร่กระจายของยุงพาหะไปในทิศทางตอนใต้ เมื่อผู้คนเดินทาง ไวรัสก็จะไปกับพวกเขาตามธรรมชาติ  และแนวโน้มนี้ อาจจะดำเนินต่อไปทั่วโลก ถือเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงต่อโลก เพราะปัจจุบันประเทศส่วนใหญ่มีไวรัสไข้เลือดออกที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 4 สายพันธุ์หมุนเวียนกันแพร่ระบาดตลอดทั้งปี และว่า โรคไข้เลือดออกนั้นยังไม่มีทางรักษา และวัคซีนก็เพิ่งเข้าสู่ตลาดเมื่อไม่นานมานี้ มีวัคซีนอยู่ 1 ชนิดที่ได้รับอนุญาตให้มีการแจกจ่ายแล้วในประมาณ 20 ประเทศ โดยมีประสิทธิภาพดีสำหรับผู้ที่เคยเป็นไข้เลือดออกมาแล้วหนึ่งครั้ง ขณะที่ มีวัคซีนอีก 2 ชนิดกำลังอยู่ในระหว่างการทดลอง และมีอีก 2 ตัวยาที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนา



          ทางด้านสถานการณ์ของประเทศไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  เปิดเผยข้อมูลว่า  ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-13 ก.ย. 2566 มีผู้ป่วย 91,979 คน อัตราป่วย 139.09 ต่อประชากรแสนคน ผู้เสียชีวิต 93 คน จาก 44 จังหวัด อัตราป่วยตายอยู่ที่ร้อยละ 0.1 ประเด็นสำคัญคือ พบอัตราป่วยสูงในเด็กอายุ 5-14 ปี และกลุ่มอายุ 15-24 ปี แต่อัตราป่วยตายกลับสูงในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55-64 ปี อัตราป่วยตายสูงสุด ร้อยละ 0.21 ผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ที่เป็นไข้เลือดออกจะมีความเสี่ยงเสียชีวิตมากกว่าเด็ก 2-3 เท่า เนื่องจากส่วนใหญ่เมื่อป่วยมักได้รับการรักษาช้าเกินไป ดังนั้น หากมีไข้ รับประทานยา 2 วันแล้วไม่ดีขึ้น ขอให้รีบไปพบแพทย์ ที่สำคัญห้ามซื้อยาชุด ไอบูโพรเฟน แอสไพริน หรือยากลุ่มเอ็นเสดมารับประทานเด็ดขาด



           ส่วนนพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เปิดเผยว่า ได้สั่งให้อาสาสมัครภาคประชาชน  อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) กว่า 1,070,000 คน ช่วยประชาสัมพันธ์การแพร่ระบาดของโรค และให้ช่วยกำจัด ลูกน้ำยุงลาย ตรวจสอบบริเวณโดยรอบชุมชนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ให้มีเศษภาชนะ วัสดุหรือเศษขยะที่มีน้ำขัง



          โดยสบส.ได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลอย่าง “แอปพลิเคชัน SMART อสม.” เข้ามาเป็นเครื่องมือในการช่วยเพิ่มทักษะดิจิทัลด้านสุขภาพ (Digital Health) ให้ อสม.และ อสส.ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องมือบันทึก และส่งต่อข้อมูลการสำรวจลูกน้ำยุงลายให้กับหน่วยบริการสาธารณสุข เพื่อเข้าดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค และดูแลสุขภาพได้ทันเวลา โดยตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค.2566 มี อสม.รายงานผลสำรวจลูกน้ำยุงลาย ผ่าน “แอปพลิเคชัน SMART อสม.” มาแล้ว 907,342 ครั้ง



 



 



 



 



 



 



#ไข้เลือดออก 



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X