เงินบาทอ่อนค่า! นายกไม่กังวล ย้ำไม่ปลดผู้ว่าฯแบงก์ชาติ

          เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 36.16 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 36.25 บาท/ดอลลาร์ จากปัจจัยสำคัญ คือ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาส่งสัญญาณว่าอาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ยอีก จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ คืนนี้ นักลงทุนรอดูผลประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งตลาดคาดว่า จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.2 ไปสู่ระดับร้อยละ 5.50 รวมทั้งรอดูการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้เป็นครั้งสุดท้ายในวัฎจักร ขณะเดียวกัน ตลาดยังติดตามการรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ด้วย

         นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง รับทราบสถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อนแล้ว แต่รัฐบาลจะไม่เข้าไปก้าวก่าย เพราะอยู่ในความดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเพราะส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ผลตอบแทนระยะสั้น ซึ่งทำให้เงินทุนไหลออกเพื่อเก็งกำไร แต่มองว่าเงินบาทอ่อน ก็ส่งผลดีกับภาคส่งออก และท่องเที่ยวของไทย พร้อมยืนยันว่า ไม่มีแนวคิดปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยระบุว่าไม่ทราบที่มาของข่าวนี้ ยืนยันว่าต้องให้เกียรติ และเคารพซึ่งกันและกัน

          สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ชี้ เกษตรกรไทยกว่า 90% มีหนี้สิน ยอดหนี้เฉลี่ยมากกว่า 450,000 บาท/ครัวเรือน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโตถึง 75% ในรอบ 9 ปี ที่สำคัญ คือ ครัวเรือนเกษตรกรกว่าครึ่ง มีแนวโน้มไม่สามารถปิดจบหนี้ได้ เหตุหนี้สูงเกินศักยภาพ จ่ายไหวแค่ดอกเบี้ย

          ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 3.5% ในปีนี้ หลังจากที่เคยคาดการณ์เอาไว้ในเดือนเม.ย.ว่าจะขยายตัว 3.3% ขณะที่ คงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยสำหรับปีหน้าที่การขยายตัว 3.7% โดยภาคการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาของเอเชียมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและมีเงินไหลเข้าสู่ภูมิภาคดังกล่าวอย่างแข็งแกร่ง และแม้การส่งออกจะเติบโตลดลง แต่ก็เริ่มส่งสัญญาณให้เห็นถึงเสถียรภาพบ้างแล้ว

          ดัชนีหุ้นไทย ปิดวันนี้ที่ 1,514.26 จุด เพิ่มขึ้น 6.36 จุด มูลค่าซื้อขาย 42,367.61 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 689.22 ล้านบาท

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดลดลงในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ แต่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในปีนี้ ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ระดับ 17,655.41 จุด ลดลง 230.19 จุด

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป ขณะเดียวกันผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ก่อนที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันศุกร์นี้ (22 ก.ย.)  ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 32,571.03 จุด ร่วงลง 452.75 จุด นับเป็นการปิดตลาดติดลบ 3 วันทำการติดต่อกัน

#เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง

#นายกฯไม่ปลดผู้ว่าแบงก์ชาติ