ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นางจีนา เรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯกล่าวต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯว่า รัฐบาลสหรัฐฯไม่มีหลักฐานว่า บริษัทหัวเว่ย ผู้ผลิตเครื่องสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของจีน จะสามารถผลิตชิปประมวลผลล้ำสมัย เช่น ชิปเซ็ตขนาด 7 นาโนเมตรในปริมาณมากๆสำหรับเครื่องสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ยอมรับว่า เธอรู้สึกไม่สบายใจ หลังทราบข่าวว่าบริษัทหัวเว่ยเปิดตัวเครื่องสมาร์ทโฟนรุ่น Mate 60 Pro ระหว่างการเยือนประเทศจีนในเดือนที่แล้ว เพิ่มเติมว่าถ้าจะมีข่าวดีอยู่บ้างคือ รัฐบาลสหรัฐฯไม่มีหลักฐานใดๆว่าบริษัทหัวเว่ยจะสามารถผลิตชิปประมวลผลขนาด 7 นาโนเมตรในปริมาณมากๆ
นางเรมอนโด กล่าวว่า แม้ว่าเธอไม่สามารถพูดในเรื่องผลสอบสวนในขณะนี้ แต่เธอให้คำมั่นว่าทุกครั้งที่พบหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่ามีบริษัทใดหลบเลี่ยงมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯ รัฐบาลสหรัฐฯจะทำการสอบสวนทันที
ขณะที่ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ รวมถึงนักวิเคราะห์จากเทคอินไซต์ (TechInsights) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรมชิปประมวลผลและตรวจสอบชิ้นส่วนต่างๆจาก สมาร์ทโฟนรุ่น Mate 60 Pro ของหัวเว่ย เพื่อการวิเคราะห์ กล่าวถึงสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ว่า แสดงถึงความคืบหน้าครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมเครื่องสมาร์ทโฟนของประเทศจีน บ่งชี้ว่า หัวเว่ยอาจจะพบวิธีการที่จะเอาชนะอุปสรรคในการพัฒนาเทคโนโลยี เนื่องจาก มาตรการห้ามส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์ ระบุว่า เครื่องสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ใช้เครื่องประมวลผล Kirin 9000S รองรับ 5G ซึ่งผลิตโดยบริษัทผลิตชิปชั้นนำของจีนคือ เอสเอ็มไอซี (Semiconductor Manufacturing International Co-SMIC) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทของจีนที่ถูกสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำ ห้ามนำเข้าชิ้นส่วนเทคโนโลยีจากสหรัฐฯในปีที่แล้ว การที่หัวเว่ยสามารถผลิตสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิปเซ็ตล้่ำสมัยเช่นนี้สร้างความประหลาดใจให้กับรัฐบาลสหรัฐฯอย่างมาก
ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวหา บริษัทหัวเว่ยเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯมานานแล้ว พร้อมทั้งใช้ประเด็นนี้เป็นเหตุผลในการจำกัดการค้ากับบริษัทหัวเว่ย ขณะที่ บริษัทหัวเว่ย ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวมาโดยตลอด
#สหรัฐกับจีน
#การแข่งขันทางเทคโนโลยี