*ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.
+++สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษทรงเห็นเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ อลิซาเบธ ไดอานา พระราชปนัดดา(เหลน)เป็นครั้งแรกในวันนี้ที่พระราชวังเคนซิงตัน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ พร้อมด้วยสมาชิกระดับสูงคนอื่นๆของพระราชวงศ์ ได้รับแจ้งเรื่องพระนามของเจ้าหญิงน้อยก่อนการแถลงให้ประชาชนทราบเมื่อวานนี้ ขณะที่เจ้าชายแห่งเวลส์ มกุฏราชกุมาร พระอัยกา(ปู่)และดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ได้ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงอยู่กับเจ้าหญิงน้อยเมื่อวันอาทิตย์ ขณะเดียวกันพระบิดาและมารดาของดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ได้เห็นเจ้าหญิงน้อยแล้วเช่นกัน ก่อนหน้านี้ ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ทรงจดทะเบียนใบสูติบัตรพระทายาทองค์ที่ 2 อย่างเป็นทางการ ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ทรงลงพระนามในใบสูติบัตรที่พระราชวังเคนซิงตันเมื่อวานนี้ โดยมีนายทะเบียนจากสำนักงานทะเบียนพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ เป็นพยาน
+++การกู้ภัยเหตุแผ่นดินไหวในเนปาล เอเอฟพี รายงานอ้างนายลักษมี ประสาด ทาคัล โฆษกกระทรวงความมั่นคงภายในของเนปาลว่า ในที่สุดทีมกู้ภัยของทหารและตำรวจของเนปาลกว่า 131,500 คนพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยต่างชาติอีกกว่า 100 ทีมสามารถลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัยในถิ่นทุรกันดารหลายแห่ง หลังประสบเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 เมื่อวันที่ 25 เมษายน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 7,557 คน นอกจากนี้รัฐบาลได้จัดตั้งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูบูรณะเนปาลราว 2 หมื่นล้านรูปี นอกจากนั้นจะขอรับความช่วยเหลือทางการเงินอีกส่วนหนึ่งจากประชาคมระหว่างประเทศ/
+++การเจรจาแสวงหาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านฉบับสมบูรณ์จะเปิดเจรจาอีกครั้งที่กรุงเวียนนา ของออสเตรียในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ เพื่อหวังบรรลุข้อตกลงฉบับสมบูรณ์ทันเส้นตายในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน จากนั้นเหล่าผู้นำทางการเมืองของชาติมหาอำนาจโลกอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาจะเข้าร่วมโต๊ะหารือในวันที่ 15 พฤษภาคม นายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ พบปะกับนายจาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านในนิวยอร์ก เมื่อวันจันทร์(4พ.ค.) ในความหวังผลักดันการเจรจานิวเคลียร์ที่เข้าสู่ระยะสุดท้าย ในขณะที่การเจรจาระดับล่างได้เริ่มขึ้นที่กรุงเวียนนามาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่การหารือไม่ค่อยคืบหน้ามากนัก ภายใต้ข้อตกลงเบื้องต้น ได้จำกัดศักยภาพทางโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเป็นเวลา 10 ถึง 15 ปีหรือมากกว่านั้น และอนุญาตให้สหประชาชาติเข้าตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
+++อิรักได้ร้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และข้อตกลงเกี่ยวกับเงินกู้ยืมมูลค่าราว 800 ล้านดอลลาร์ (2.66 หมื่นล้านบาท) หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการตกฮวบลงของราคาน้ำมันนับตั้งแต่ปีที่แล้ว ตลอดจนจากการก่อกบฏของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) นายมาซูด อาห์เหม็ด ผู้อำนวยการสำนักงานตะวันออกกลางและเอเชียกลางของไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า ความช่วยเหลือดังกล่าวน่าจะมาในรูปของตราสารหนี้เร่งด่วน (Rapid Financing Instrument หรือ อาร์เอฟไอ) และจะเป็นเงินประมาณ 800 ล้านดอลลาร์
+++คณะสืบสวนสหรัฐฯกำลังตรวจสอบคำกล่าวอ้างของรัฐอิสลาม(ไอเอส) ที่บอกว่าอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีที่ล้มเหลวต่องานนิทรรศการและประกวดการ์ตูนล้อศาสนดาโมฮัมหมัดในรัฐเทกซัส ซึ่งมือปืนทั้ง 2 คนถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรม หลังเชื่อว่านักรบกลุ่มนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องโดยตรงนายจอช เออร์เนสต์ โฆษกระบุมีคนจำนวนมากที่พยายามแสวงหาประโยชน์จากอิทธิพลของกลุ่มนี้ โดยกล่าวอ้างว่าเป็นผู้ภักดีทั้งที่ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรง หรือมันเป็นแค่การฉวยโอกาสอ้างเครดิตของไอเอส
+++ราคาน้ำมันสหรัฐฯพุ่งแรงเมื่อวันอังคาร(5พ.ค.) ขยับเหนือ 60 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบปีนี้ ท่ามกลางความตึงเครียดในเหล่าชาติผู้ผลิต น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.47 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่สนับสนุนราคาน้ำมันวานนี้(5พ.ค.) เนื่องจากมีเหตุประท้วงในลิเบีย ซึ่งปิดการส่งมอบน้ำมัน ณ ท่าเรือแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกของประเทศ นอกจากนี้แล้วยังมีความกังวลต่อเสถียรภาพในตะวันออกกลางท่ามกลางเหตสู้รบกันในเยเมน และข่าวกองทัพเรือสหรัฐฯเริ่มกำลังการคุ้มกันเหล่าเรือของอเมริกาในช่องแคบฮอร์มุซ ตามหลังกรณีอิหร่านเข้ายึดเรือสินค้าลำหนึ่ง
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(5พ.ค.) ปรับลดแรง หลังพบตัวเลขขาดดุลการค้าของประเทศขยายตัวขึ้นมากกว่าที่คาด กระพือความกังวลว่าเศรษฐกิจช่วงไตรมาสแรกอาจหดตัว ดาวโจนส์ ลดลง 142.20 จุด ปิดที่ 17,927.20 จุด
ตัวเลขขาดดุลการค้าเดือนมีนาคมของสหรัฐฯ อยู่ที่ 51,400 ล้านดอลลาร์ สูงสุดในรอบเกือบ 6 ปีครึ่ง เกินกว่าที่รัฐบาลคาดหมายไว้อย่างมาก บ่งชี้เศรษฐกิจหดตัว ขณะที่ทางการประมาณการณ์ว่าน่าจะขาดดุลราวๆ 45,200 ล้าน ส่วนราคาทองคำเมื่อวันอังคาร(5พ.ค.) ปิดบวกพอสมควร โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 6.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,193.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++เจ้าหน้าที่คนเข้าเมืองฟิลิปปินส์ แจ้งข้อหาเนรเทศ ฐานเป็นบุคคลอันไม่พึงปรารถนาต่อนายโกสินทร์ ประเสริฐศรี หรือนายโกโก้ พลเมืองไทย แสดงความคิดเห็นเหยียดเชื้อชาติฟิลิปปินส์บนสื่อสังคมออนไลน์ โดยเรียกชาวฟิลิปปินส์ว่า "pignoys “ และด่าว่าเป็นพวกสัตว์ประหลาดที่โง่เขลา พวกทาสสลัมชั้นต่ำและเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไร้ประโยชน์เป็นประชากรที่ไม่มีคุณภาพของโลก ต่อมานายโกสินทร์ ถูกพบว่าเป็นพนักงานของคอกนิแซนท์ ประจำสำนักงานในเมืองตากุย "ตามข้อมูลของเรา นายโกสินทร์ทำงานภายใต้วีซ่าพิเศษประเภทคนอยู่ชั่วคราวตามมาตรการ 47 ได้รับแจ้งข้อกล่าวหาเนรเทศแล้วเมื่อวันจันทร์(4พ.ค.) และจะได้รับอนุญาตให้เข้าแก้ต่างข้อกล่าวหา กรณีที่ได้ข้อสรุปคือเนรเทศ นายโกสินทร์จะถูกขึ้นบัญชีดำของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฟิลิปปินส์และห้่ามเดินทางกลับเข้ามายังประเทศแห่งนี้อีก ในส่วนของนายโกสินทร์ ได้โพสต์จดหมายบนหน้าเฟซบุ๊กประชาคมอาเซียนก่อนหน้านี้ กล่าวขอโทษต่อพฤติกรรมที่ดูหมิ่นคนฟิลิปปินส์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ และเผยถูกนายจ้างลงโทษฐานแสดงความเห็นเหยียดเชื้อชาติ พร้อมยอมรับว่าอาจถูกย้ายไปประจำสาขาอื่นเร็วๆนี้
+++องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (อินเตอร์โพล) หรือตำรวจสากล ออกประกาศเตือนระดับ 'สีส้ม' ไปยัง 190 ประเทศทั่วโลก เกี่ยวกับอันตรายจากการใช้ยาลดความอ้วนที่มีส่วนประกอบของ '2.4-ไดไนโตรฟีนอล' (2.4-Dinitrophenol) หรือ ดีเอ็นพี ประกาศเตือนดังกล่าวมีขึ้นจากการร้องขอของทางการฝรั่งเศส หลังการเสียชีวิตของ น.ส.เอลัวส์ แพร์รี วัย 21 ปี ชาวอังกฤษ เมื่อเดือน เม.ย. จากการใช้ยาดังกล่าว ขณะที่ชายชาวฝรั่งเศสอีกคนยังอยู่ในอาการสาหัส โดยสารดังกล่าวมักพบในรูปของผงแป้งสีเหลือง แคปซูล และครีม นอกจากอันตรายจากฤทธิ์ของตัวยาเองแล้ว กระบวนการผลิตที่ไร้มาตรฐานยังช่วยเพิ่มความเสี่ยงที่เกิดจากการใช้ยาไม่ถูกต้องด้วย การลักลอบผลิตในสถานที่ที่ไม่มีอนามัย โดยปราศจากหลักการผลิตที่ถูกต้อง จะทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการได้รับยาเกิดขนาด เช่นในกรณีของแพร์รีที่ซื้อยาผ่านทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเธอได้รับยาเกินขนาดโดยไม่ตั้งใจ โดยรายละเอียดของคดียังอยู่ในระหว่างการสืบสวน
+++ดีเอ็นพี ถูกใช้เป็นสารประกอบระเบิดในฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งมีรายงานว่ามันยังถูกใช้เพื่อเพิ่มการเผาผลาญและลดไขมันในหมู่คนงานโรงงานผลิตอาวุธ และต่อมาถูกนำไปใช้เป็นสารกระตุ้นเพื่อลดน้ำหนัก ก่อนจะถูกถอดออกจากสารบบและถูกแบนในสหรัฐช่วงคริสทศวรรษปี 1930 เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตกลายกรณี รายงานของวาด้าเมื่อปีที่แล้วระบุว่า ความนิยมใน ดีเอ็นพี พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2550 โดยเฉพาะในกลุ่มนักเพาะกาย เพื่อใช้ในการสลายไขมันและลดน้ำหนัก กระบวนการทำงานของดีเอ็นพีนั้น มันจะป้องกันไม่ให้เกินการสะสมพลังงานในรูปของไขมัน ในทางกลับกัน การเผาผลาญเช่นนั้นจะยิ่งทำให้เกิดความร้อนปริมาณมากภายในร่างกาย ดร.ไซมอน โธมัส หนึ่งในผู้เขียนรายงาน กล่าวว่า อุณหภูมิที่พุ่งสูงจะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ เช่นในส่วนของกล้ามเนื้อ ไต และสมอง.