ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันจับกุม น.ส.สายฝน หรือ ชุติมันต์ฯ โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรฯ” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งถนนปัญญารามอินทรา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.
กรมสรรพากรได้มาร้องทุกข์ ให้พิจารณาดำเนินคดีอาญาความผิดกับกลุ่มผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการส่งออกคอมพิวเตอร์ ที่มีพฤติการณ์ในการขอคืนภาษีเป็นเท็จ พบผู้ต้องหา ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทฯ ทั้งสามแห่ง ซึ่งบริษัทดังกล่าวดำเนินการประกอบธุรกิจประเภทจัดจำหน่ายและส่งออกอุปกรณ์ไอที และมีผู้ต้องหาเป็นกรรมการบริษัท จากการตรวจสอบประวัติการยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ต้องหา พบว่ามีการยื่นรายได้อยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาท และมีการขอคืนภาษีบางส่วนที่ใช้สิทธิลดหย่อน แต่จากการตรวจสอบข้อมูลบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา พบว่า ช่วงระหว่างปี พ.ศ.2555-2558 ได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีจากบริษัทฯ ทั้งสามแห่ง รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 196 ล้านบาท
กรมสรรพากรเรียกผู้ต้องหาไปชี้แจงเกี่ยวกับเงินที่เข้าบัญชี แต่ผู้ต้องหาไม่สามารถชี้แจงได้ พิจารณาแล้วเป็นความผิดซึ่งผู้ต้องหาจะต้องเสียภาษีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 196 ล้านบาท จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ดำเนินการขอศาลเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหา นำกำลังไปบริเวณดังกล่าว และเข้าจับกุม นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผลปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. และ พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.2 บก.ปอศ.สั่งการให้ พ.ต.ต.วรรลพ รัตนวงษ์ สว.กก.2 บก.ปอศ.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ.
#จับผู้ต้องหาเลี่ยงภาษี
#ขอภาษีเงินคืนเป็นเท็จ
#ตำรวจสอบสวนกลาง
CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB),ผู้พิทักษ์