*ตร.รวบ"โชติพัฒน์"ผตห.ตามหมายจับคดียูฟันด์ กบดานย่านคันนายาว*

การจับกุมผู้ต้องหารายใหญ่ในคดีแชร์ลูกโซ่ข้ามชาติยูฟันด์  พ.ต.อ. อังกูร คล้ายคลึง รองผู้บังคับการการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า ตำรวจชุดสืบสวนได้นำหมายจับศาลมีนบุรี ควบคุมตัวผู้ต้องหาคือนาย โชติพัฒน์ วุฒิพันธ์โภคิน หลับหลบหนีมาอยู่บ้านแม่ยายบริเวณซอนคู้บอน 6 ตามหมายจับข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตามความผิดพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ตามม. 4 และประมวลกฎหมายอาญาม.343   นาย โชติพัฒน์ ถือเป็นผู้ต้องหารายใหญ่ที่ตำรวจตามตัวมานานเนื่องจากเป็นแม่ข่ายคดีเเชร์ลูกโซ่รายต้นๆ คาดว่าจะมีลูกข่ายจำนวนมาก และยังพบว่านาย โชติพัฒน์ เป็นลูกข่ายในสังกัดของนายโน๊ต หรือ นาย รัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ ผู้ต้องหารายใหญ่ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้  โดยนายโชติพัฒน์ เดินทางไปประชุมกลุ่มย่อยบริษัทยูฟันด์ที่มาเลเซียบ่อยครั้ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2558 ก่อนจะหลบหนีและถูกจับกุมในที่สุด

พ.ต.อ.อังกูร ระบุว่า ถือว่านาย โชติพัฒน์ มีวีธีการหลบหนีที่ชำนาญ เพราะไม่ได้พกโทรศัพท์มือถือไว้ติดตัว ทำให้ยากต่อการจับกุม ส่วนการจับกุมในวันนี้นั้นผู้ต้องหาไม่ได้ขัดขืนและยินยอมให้ตรวจค้นบ้านและจับกุมโดยดี จากการตรวจค้นพบเอกสารบางส่วนที่เกี่ยวกับคดี แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ขณะนี้ เพราะคดีอยู่ในชั้นสอบสวน  นอกจากนั้น ยังนำตัวภรรยานายโชติพัฒน์มาสอบปากคำด้วยแต่ยังไม่ได้แจ้งข้อหา เพราะจากหลักฐานยังไม่พบว่าเชื่อมโยงคดี

สำหรับการจับกุมนาย โชติพัฒน์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับลำดับที่ 14 ในคดียูฟันด์ และถึงขณะนี้สามารถจับผู้ต้องหาได้แล้ว 8 แต่ต้องสอบต่อไปว่ามาเลเซียและประเทศต่างๆให้การรับรองบริษัทยูฟันด์ อยู่หรือไม่ และยังต้องตรวจสอบรายละเอียดต่างๆของบริษัทต่อไป

ด้านนาย โชติพัฒน์ ระบุว่า ตัวเองทำธุรกิจนี้มาตั้งแต่ยังไม่มีบริษัทในไทย โดยช่วงนั้นรับข้อมูลมาจากประเทศมาเลเซีย และหาเครือข่ายต่อในไทย ธุรกิจดังกล่าวเป็นระบบการสร้างเครือข่ายคล้ายกับขายตรง เงินที่ได้จะได้ตามหลักการซื้อขายยูโทเคนตามมูลค่าเงินในระบบ ซึ่งต้องมีการซื้อขายยูโทเคนก่อนจึงจะคำนวณได้ สำหรับตัวเองคาดว่าหากขายก็น่าจะมีเงินเกิน 1 ล้านบาท แต่ก็พบว่าสมาชิกส่วนใหญ่ยังไม่ได้ขาย โดยตัวเองมีลูกข่ายในมือหลักพัน ส่วนการโพสต์ข้อความลงในโซเซียลมีเดียต่อต้านการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็เป็นจากทัศนคติส่วนตัวเท่านั้น ไม่ทราบว่ามีความผิดตามกฎหมายหรือไม่  ยอมรับว่า เคยไปร่วมประชุมสมาชิกกลุ่มยูฟันด์ในหลายประเทศ ทั้งจีน อินโดนีเซียและมาเลเซีย เพื่อดูกิจการกลุ่มในฐานะสมาชิก และเคยพบกับดาโต๊ะ นายดาโต๊ะ แดเนียล เท ผู้บริหาร ยูฟันกรุ๊ป และยูฟันสโตร์ จำกัด จริง แต่ไม่เคยพูดคุยกันส่วนตัว