ผบ.ตร.ยืนยัน พ.ต.อ.วชิรา ยิงตัวเองเสียชีวิต ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาสาเหตุ

          หลังจาก  พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. เสียชีวิต ภายในบ้านพัก ในพื้นที่อ.คูคต จ.ปทุมธานี พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบจากหลักฐานที่พบในจุดเกิดเหตุ เชื่อได้ว่า พ.ต.อ.วชิรา ยิงตัวเองเสียชีวิต ส่วนที่พบเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติทำความสะอาดจุดเกิดเหตุ เป็นเพราะได้ตั้งเวลาการทำงานไว้ ทำให้พบหัวกระสุนในเครื่องโรบอททำความสะอาดสถานที่เกิด

          รวมทั้ง ยังได้สั่งการให้ ผบช.ภ.1 ไปดูสถานที่เกิดเหตุและรวบรวมข้อมูลหลักฐานอย่างชัดเจน มีการตรวจชันสูตรหลักฐานจากแพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) พนักงานสอบสวนและพนักงานสืบสวน ทั้งจากตำรวจในพื้นที่และระดับ ภ.1 รวมทั้งตรวจช่วงเวลาหรือไทม์ไลน์ของพ.ต.อ.วชิรา จนได้ข้อสรุปเบื้องต้นแล้ว

         โดยไทม์ไลน์ พ.ต.อ.วชิรา เริ่มจากการรับประทานอาหารกับเพื่อน โดยจากการสอบถามเพื่อนๆ ทราบว่ามีความเครียดและทานอาหารไม่ลง เนื่องจากกรณีพ.ต.ต.ศิวกร หรือสารวัตรแบงก์ ที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาได้เสียชีวิตภายในบ้านกำนันนก และยังมีข่าวสารอื่น ๆ อีก ทำให้เพื่อนชักชวนให้พักที่โรงแรมที่ทานอาหารด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน

          แต่ พ.ต.อ.วชิรา ออกจากโรงแรมตอนประมาณ 04.00 น.โดยนั่งรถแท็กซี่ส่วนบุคคลไปถึงบ้านพักที่เกิดเหตุในเวลา 04.51 น.จากนั้นคาดว่าลืมกุญแจไว้ในรถแท็กซี่ จึงปีนรั้วเข้าไปในบ้านพัก ก่อนที่ในอีก 4 นาทีจะมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และช่วงบ่ายทางผู้ใต้บังคับบัญชาและเพื่อนๆ ติดต่อไม่ได้ จึงไปดูที่บ้านพักก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว

          ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุจากหน่วยงานต่างๆ ไม่มีร่องรอยใดๆ ไม่มีคนเข้าไปยุ่งเกี่ยวก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบเขม่าดินปืนด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยจากพฐ. พบคราบเขม่าดินปืนในมือของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ข้าง จึงจำลองเหตุการณ์ได้ว่า มีการใช้มือขวาถือปืนของตัวเองยิงโดยใช้มือซ้ายประคอง ด้วยหลักฐานทั้งหมดดังกล่าวจึงสรุปได้ว่าน่าเชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย

          โดยการยืนยันจากหลักฐานในที่เกิดเหตุและทางนิติวิทยาศาสตร์ที่มีความสอดคล้องกัน ก่อนเกิดเหตุ พ.ต.อ.วชิรา บ่นว่าเขารู้สึกเสียใจที่ พ.ต.ต.ศิวกร เสียชีวิต และขณะเกิดเหตุที่ จ.นครปฐม ก็ไม่ได้เอาปืนลงไปด้วย เพราะเป็นงานเลี้ยง แต่หลังมีการยิง พ.ต.ต.ศิวกร แล้วเขาเองเป็นคนพาคนบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และจากคำให้การของพ.ต.อ.วชิรา หลังจากนั้นก็ยืนยันว่าคนที่ยิงคือนายหน่อง

          สำหรับความคืบหน้าในคดีมอบหมายให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ดำเนินการ แต่ในขั้นนี้ยังไม่มีการขออนุมัติหมายจับใครเพิ่มเติม และกรณีเครื่องเก็บข้อมูลกล้องวงจรปิดในบ้านหรือเซิร์ฟเวอร์นั้น ยืนยันว่าเปิดได้แล้ว และตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน เพื่อตรวจสอบแต่จะเปิดภาพดูได้หรือไม่ จะต้องดูในรายละเอียดก่อนต่อไป

          ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 รายนั้น ผมรู้สึกเสียใจและไม่อยากให้เกิดกับผู้ใต้บังคับบัญชาอีก ส่วนกรณีที่มีการโพสต์ข่มขู่เจ้าหน้าที่นั้นได้สั่งการให้ ภ.7 ตรวจสอบพบว่าเป็นพวกอวตาร แต่ก็จะได้ตรวจสอบต่อไปหากพบตัวก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

          ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กล่าวว่า  ผลการชันสูตรพลิกศพของแพทย์นิติเวช รพ.ภูมิพล ทำการผ่าพิสูจน์พบรอยกระสุนเข้าทางศีรษะ ด้านขวา ทะลุ ศีรษะด้านซ้าย แนวเฉียงขึ้น บริเวณรอบๆศพ พบรอยเลือดเป็นแนว ผลการตรวจเขม่าดินปืน โดยใช้เครื่องมือ AAS (Atomic absorption spectroscopy ) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์ขั้นสูง มีผลแม่นยำ เป็นที่ยอมรับสากล พบเขม่าดินปืนที่มือซ้ายและขวา จึงจำลองสถานการณ์ได้ว่า ท่ายิงก่อนเสียชีวิต พ.ต.อ.วชิรา น่าจะนั่งชันเข่า จากนั้นถืออาวุธปืนด้วยมือขวาแล้วจ่อที่ขมับข้างขวา โดยใช้มือซ้ายประคอง เมื่อยิงเสร็จ ทำให้ตัวผู้ตายหงายหลังกระสุนทะลุและตกอยู่ที่ด้านซ้ายของผู้ตาย พบเศษเนื้อสมองกระเด็นติดที่ผนังบ้านฝั่งซ้าย ขณะชันสูตรสภาพศพแข็งตัว ตั้งแต่ช่วงลำตัวจนสุดด้านล่าง แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วระหว่าง 8-12 ชม.

          จากผลดังกล่าวข้างต้น ทั้งการตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุ พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ผลการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด และผลการตรวจชันสูตรพลิกศพ สอดคล้องตรงกัน น่าเชื่อได้ว่า พ.ต.อ.วชิรา ใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย ส่วนประเด็นสาเหตุคงต้องรอผลการสอบสวนปากคำพยานเพิ่มเติม  ซึ่งทาง ภ.จว.ปทุมธานี ได้มีคำสั่งที่ 242/2566 ลง 11 ก.ย.66 เรื่องแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร รอง ผบก.เป็นหัวหน้า เพื่อทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานคลี่คลายคดีนี้แล้ว

#ตำรวจทางหลวงยิงตัวตาย 

#พิสูจน์หลักฐาน