สรุปข่าว 18.00 น.
+++หลังจากรัฐบาลเปิดให้ประชาชนบริจาคเงินและสิ่งของช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ให้แก่ชาวเนปาลที่ประสบภัยแผ่นดินไหวตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.-3 พ.ค.2558พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มียอดเงินบริจาคถึงสี่โมงเย็นเมื่อวันที่ 3 พ.ค. รวม 111,887,641.25 บาท ขณะที่รัฐบาลโดยกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ กำลังลำเลียงสิ่งของบริจาคทั้งหมดให้ได้โดยเร็ว พบว่าการลงจอดและขนถ่ายสิ่งของปริมาณมากนั้นประสบความยากลำบาก เนื่องจากมีต้นทุนค่าเชื้อเพลิง อีกทั้ง ท่าอากาศยานตรีภูวันในกรุงกาฐมาณฑุและเมืองใกล้เคียงมีความคับคั่งมาก ดังนั้นการนำเงินบริจาคไปซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากพื้นที่ใกล้เคียงที่ประสบภัยแล้วจัดส่งเข้าไปจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้บัญชาให้กองทัพเรือศึกษาเส้นทางและท่าเรือสำหรับการเร่งลำเลียงสิ่งของเข้าสู่เขตพื้นที่ภัยพิบัติ เพราะเป็นการขนส่งที่มีระวางบรรทุกได้จำนวนมาก ส่วนในวันที่ 6 พ.ค.นี้ จะมีการประชุมทางไกลผ่านดาวเทียมระหว่างศูนย์ประสานงานนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาลและสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เพื่อติดตามสถานการณ์การกู้ภัยและฟื้นฟูเหตุแผ่นดินไหวในเนปาลอย่างใกล้ชิด
+++การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครส่งคำข้อแก้ไข หรือข้อเสนอแนะกลับมาที่คณะกรรมาธิการฯ หลังส่งคำถามไปให้พรรคการเมืองทั้ง 74 พรรค โดยจะต้องรอหลังวันที่ 20 พฤษภาคม 2558 ในส่วนของพรรคการเมือง และหลังวันที่ 25 พฤษภาคม 2558 ในส่วนของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะรัฐมนตรีจากนี้คณะกรรมาธิการฯ จะรวบรวมความเห็นและข้อเสนอแนะ จากนั้นจะเชิญตัวแทนเข้าแลกเปลี่ยนความเห็นในวันที่ 2-6 มิถุนายน 2558 โดยในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ จะเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองที่มี ส.ส.ในสภาฯ สมัยที่แล้วเข้าให้ชี้แจงพรรคละ 1 ชั่วโมง
++นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่สอง กล่าวถึงการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญนั้น สนช.เห็นตรงกันว่า ต้องทำประชามติ แต่ไม่ควรนำร่างรัฐธรรมนูญปีอื่นมาประกบกับร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้ประชาชนโหวตเลือก สนช.บางส่วนเห็นว่า ให้ทำประชามติเป็นรายประเด็นเฉพาะประเด็นที่ถูกท้วงติงมากๆ เช่น ที่มานายกฯ ที่มา ส.ว. และที่มา ส.ส. ไม่ควรทำทั้งฉบับว่า ประชาชนจะรับหรือไม่รับ เพราะจะทำให้เนื้อหาในส่วนที่ดีๆ ของรัฐธรรมนูญต้องพลอยตกไปด้วย เชื่อว่าการทำประชามติรายประเด็น ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก ชาวบ้านเข้าใจได้ ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไร
+++ด้าน นายวันชัย สอนศิริ โฆษกวิป สปช. ระบุว่า ขณะนี้ยังเร็วไปที่จะพูดถึงการทำประชามติ แต่คาดว่าสมาชิก สปช.คงจะได้หารือกันหลังจากผ่านการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญแล้ว โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับการทำประชามติ ซึ่งหากประชาชนไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ ก็ต้องเริ่มต้นยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยนำร่างรัฐธรรมนูญที่ยกร่าง รัฐธรรมนูญปี 2540 และปี 2550 มาประกอบการยกร่างใหม่ การเริ่มต้นยกร่างใหม่ยังทำให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ได้ทำงานเพื่อแก้ปัญหาประเทศอีกระยะ
+++คดีพบศพชาวโรฮิงญา จำนวน 26 ศพ ที่เทือกเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา มีรายงานว่า ล่าสุด พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวังสงขลา ได้ออกคำสั่ง ภ.จว.สงขลา ที่ 0024 (สข.) 311(2)/1552 ลงวันที่ 3 พ.ค.สั่งย้าย ร.ต.ต.อารีย์ หมันสมัน รองสารวัตรปราบปราม สภ.ปาดังเบซาร์ และ ด.ต.อัศณีย์รัญ นวลรอด ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.ปาดังเบซาร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตำรวจประจำป้อมเขารูปช้าง บ้านตะโล๊ะ ต.ปาดังเบซาร์ ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภ.จว.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.
+++นางดวงกมล เจียมบุตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ไทยสามารถส่งออกข้าวไปยังฮ่องกงสูงถึง 49,900 ตัน หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้สัดส่วนการส่งออกของไทยเพิ่มจากร้อยละ 42 เป็นร้อยละ 62 ในขณะที่เวียดนามซึ่งเป็นคู่แข่งของไทยสามารถส่งออกได้เพียง 21,700 ตัน จากจำนวน 31,900 ตัน สาเหตุสำคัญที่ทำให้ข้าวไทยมีการนำเข้าเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากการปรับตัวลดลงของราคาข้าวหอมมะลิไทยในช่วงเก็บเกี่ยวเมื่อปลายปีที่แล้ว บวกกับความมั่นใจของผู้นำเข้าในคุณภาพของข้าวไทยจากการเดินทางไปกระชับความสัมพันธ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในช่วงเดือนมกราคม
+++กรณี น.ส.ภัณทร์สุดา จายเรือน อายุ 23 ปี นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ขับรถยนต์พุ่งชนจักรยาน บนถนน สายเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 2 ราย นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้ให้ประกันภัยจังหวัด เข้าไปช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและ บาดเจ็บแล้ว ซึ่งผู้เสียชีวิตได้รับเงินค่าชดเชย รายละ 500,000 บาท ส่วนผู้บาดเจ็บออกจากโรงพยาบาลแล้ว 1 ราย นอนพักรักษาตัวที่โรง พยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่อีก 1 ราย ส่วนน.ส.ภัณทร์สุดา ผู้ขับรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดี ข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและบาดเจ็บ เนื่องจากตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย 67 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินมาตรฐาน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเข้าข่ายเมาสุราขับรถ จนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สอบปากคำ น.ส.ภัณทร์สุดาแล้วยอมรับว่าดื่มสุราในหอพักเพื่อน จนถึงเช้าก่อนขับรถกลับบ้าน ทำให้เกิดอาการหลับใน
+++ผลการเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน ดีแอลที เช็ก อิน ในรอบ 2 เดือน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า มีการส่งข้อเสนอในการพัฒนาคุณภาพบริการรถแท็กซี่ 2,653 ครั้ง แบ่งเป็นการแสดงความพึงพอใจคุณภาพ 543 ครั้ง ข้อเสนอการพัฒนาคุณภาพแท็กซี่ไทย 1,124 ครั้ง และการร้องเรียนปัญหา 986 ครั้ง โดยปัญหาที่ร้องเรียนมากสุด ได้แก่ การปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร ไม่กดมิเตอร์ ใช้มิเตอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ขับรถประมาทหวาดเสียว รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับสภาพตัวรถ กลิ่นภายในรถ แอร์ไม่เย็น สำหรับช่วงเวลาที่มีการใช้บริการเช็กอินมากที่สุด คือช่วง 15.00-18.00 น. ซึ่งจากข้อมูลการเช็กอินพบว่าปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสารสูงสุดอยู่บริเวณถนน สุขุมวิท สีลม สาทร และพญาไท ซึ่งจากข้อมูลนี้กรมการขนส่งทางบกจะนำมาพิจารณาจัดสรรกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่กวดขันการให้บริการรถแท็กซี่ในพื้นที่และช่วงเวลาที่เป็นปัญหาเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ยังได้มีการเชื่อมโยงหมายเลขทะเบียนรถแท็กซี่จากการเช็กอินเข้ากับฐานข้อมูลทางทะเบียน และการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1584 ของกรมการขนส่งทางบก เพื่อใช้ลงโทษผู้กระทำความผิดด้วย
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ตลาดปิดร่วงลงอย่างหนักกว่า 500 จุดเมื่อวานนี้เพิ่มขึ้น 11.62 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 19,531.63 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 9.18 จุด หรือ 0.03% ปิดวันนี้ที่ 28,123.82 จุด
+++นายตุลสี ประสาด โคตัม ผู้อำนวยการสำนักงานท่องเที่ยวเนปาล กล่าวว่าเขาเอเวอเรสต์ยังคงเปิดให้นักไต่เขาเข้าไปไต่เขาได้ตามปกติ แม้เหตุหิมะถล่มหลังเหตุแผ่นดินไหวเมื่อเดือนก่อนจะสร้างความเสียหายให้กับเส้นทางปีนเขาส่วนใหญ่ที่จะมุ่งหน้าไปสู่ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก สำหรับนักไต่เขาแต่ละคนจะต้องจ่ายเงิน 11,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว 3 แสน 3 หมื่น 6 พันบาท)ด้าน บริษัทจัดทัวร์ปีนเขาหลายแห่งยกเลิกกิจกรรมพิชิตยอดเอเวอเรสต์ในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ รวมทั้งไม่มั่นใจว่าจะเกิดอาฟเตอร์ช็อก หรืออันตรายรูปแบบอื่นๆ ระหว่างทางขึ้นสู่ยอดเขาหรือไม่