รอง ผบ.ตร.เผย นายกฯ ย้ำปราบปรามมาเฟีย – เพิ่มมาตรการความปลอดภัยรับฟรีวีซ่าจีน

10 กันยายน 2566, 14:40น.

          พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังร่วมประชุมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.  โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมประชุมด้วย ที่บ้านพิษณุโลก  โดยนายกฯ ได้ให้แนวทางการทำงาน 2 เรื่อง  คือ ด้านการท่องเที่ยว ที่รัฐบาลมีนโยบายฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งในส่วนของหน่วยงานความมั่นคงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ   มองว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์กับประเทศอย่างมาก เนื่องจากการที่นักท่องเที่ยวจีนไม่เดินทางมาประเทศไทย  เพราะมีขั้นตอนยากลำบากในการเดินทางเข้าประเทศ   การเปิดฟรีวีซ่าจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาที่ประเทศไทยได้สะดวกมากขึ้น  โดยตำรวจจะเพิ่มมาตรการความปลอดภัย เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยว ให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเน้นย้ำในส่วนด้านความปลอดภัยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเพื่อรองรับนโยบายนี้ ซึ่งจะทำให้โรงแรม ร้านค้า กลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของไทย



              ส่วนอีกเรื่องที่นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำและเป็นกังวล คือ การปราบปรามมาเฟียและผู้มีอิทธิพล และให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  โดยนายกรัฐมนตรีย้ำให้ปราบปรามให้ถึงที่สุด  รวมถึงกรณีการฮั้วประมูลในพื้นที่ด้วย  โดยเฉพาะคดีกำนันนก ที่มีเงินเป็นพันล้านบาทภายในเวลาไม่กี่ปี และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง  ซึ่งตนยืนยันว่า จะลงไปกำกับดูแลเรื่องนี้โดยตรง เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และตำรวจต้องไม่เป็นไม้ค้ำยันให้ผู้มีอิทธิพลเหล่านี้



             พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังเปิดเผยว่า นายกฯ ย้ำให้สืบสวนสอบสวนคดีกำนันนกให้ถึงที่สุด ส่วนจะมีการออกหมายเรียกตำรวจอีก 6 นายเพิ่มเติมอีกหรือไม่  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน หากสอบสวนแล้วพบว่า เป็นผู้กระทำผิด ก็จะขออนุมัติออกหมายจับต่อไป  ส่วนตำรวจสามนายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเซิร์ฟเวอร์ไปทิ้งน้ำ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตอบว่า ได้มีการกู้เซิฟเวอร์แล้ว และจะใช้เวลา 3-4 วัน ในการกู้ข้อมูล



              แต่ในส่วนทรัพย์สินของกำนันนก ยังไม่มีการอายัดทรัพย์สินแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่เข้าข่ายความผิด ขณะนี้ได้เอกสารและข้อมูลส่วนใหญ่มารวบรวมไว้แล้ว โดยจะมีการสอบสวนเรื่องฮั้วประมูล  หากพบว่ามีการฮั้วประมูลจริง ก็จะเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งจะใช้มาตรการการยึดทรัพย์ได้



                 รอง ผบ.ตร.ยังระบุด้วยว่า ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม   กลุ่มแรกเกิดเหตุแล้ววิ่งหนี จะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่แน่นอน , กลุ่มที่สองคือกลุ่มร่วมทำลายพยานหลักฐาน  และพากำนันนกหนี ซึ่งมีการออกหมายจับไปบางส่วนแล้ว และกลุ่มที่สาม พาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล  ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มนี้   



             สำหรับตำรวจที่เกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่เป็นตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลาง (ตำรวจทางหลวง) ซึ่งคดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะพยานหลักฐานมีครบ เพียงแค่ตรวจสอบ CCTV และเส้นทางการเงิน คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ก็จะสอบสวนเสร็จสมบูรณ์



             พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ย้ำว่า กำนันนกไม่มีทางหลุดรอดจากคดี ที่ไม่ให้ตำรวจพื้นที่ทำคดี เพราะอาจมีการหลุดรั่ว  โดยจะทำให้คดีนี้เป็นตัวอย่าง ว่าใครทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลจะถูกล้างบางให้หมด



#ยิงตำรวจทางหลวง



#กำนันนก



#ปราบผู้มีอิทธิพล

ข่าวทั้งหมด

X