*นักวิเคราะห์เผยน้ำมันดิบเบรนท์พุ่ง67 ดอลลาร์ *

รอยเตอร์ส รายงานอ้างนายริค สพูเนอร์ หัวหน้านักวิเคราะห์ของบริษัทซีเอมซี มาร์เกตส์ ในนครซิดนีย์ ออสเตรเลียว่า น้ำมันดิบเบรนท์แตะระดับ 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันนี้ หลังการร่วงลงต่อเนื่องก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันตัวเลขการผลิตของโรงงานของจีนอ่อนลงทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่า รัฐบาลจีนจะออกมาตรการต่างๆเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้ ผลสำรวจของภาคธุรกิจเอกชนรายหนึ่งบ่งชี้ว่า จีน ผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก ประกาศตัวเลขการผลิตของโรงงานลดลงที่ 48.9 ในเดือนเมษายน สำหรับตัวเลขต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าการผลิตของโรงงานลดลง เมื่อเทียบกับเดือนก่อนๆ ตัวเลขดังกล่าวมีขึ้น สถาบันวิจัยของรัฐบาลจีนประเมินว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีนอาจจะลดลงมาที่ร้อยละ 6.8 ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ขณะเดียวกันผลการสำรวจของรอยเตอร์ส บ่งชี้ว่า ปริมาณน้ำมันดิบจากกลุ่มโอเปก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40 ของปริมาณน้ำมันดิบทั่วโลก เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 อยู่ในระดับสูงเป็นสถิติใหม่ในรอบกว่า 2 ปีเมื่อเดือนเมษายน

สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนขยับขึ้น 11 เซนต์ อยู่ที่ 66.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังทำสถิติสูงสุดในรอบปีนี้ที่ 66.93 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 30 เมษายน ส่วนสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบของสหรัฐฯงวดเดือนมิถุนายนขยับขึ้น 8 เซนต์ อยู่ที่ 59.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังแตะระดับสูงสุดของปีนี้ที่ 59.90 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ขยับขึ้นกว่าร้อยละ 40 จากเดิม 45.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 ปีเมื่อเดือนมกราคม ด้านนักวิเคราะห์จากมอร์แกนสแตนลีย์ระบุว่าปัญหาความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง จำนวนแหล่งขุดเจาะน้ำมันที่ลดลงของสหรัฐฯและการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์สหรัฐฯเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้น/15.31 น.