รอยเตอร์ รายงานว่าการประชุม Asean Summit ครั้งที่ 43 ในกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย เปิดฉากขึ้นแล้วระหว่าง 5-7 กันยายนนี้ ซึ่งมีสมาชิก 10 ประเทศ บวกติมอร์-เลสเต ร่วมประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์ โดยประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียแถลงเปิดประชุม เตือนกลุ่มอาเซียนระวังถูกดึงมาสู่ความขัดแย้งของมหาอำนาจ 2 ฝ่ายคือสหรัฐฯกับประเทศจีน ขจัดความกังวลว่ามีปัญหาแตกแยกภายในกลุ่มอาเซียนในเรื่องการแก้ไขปัญหาวุ่นวายในเมียนมา ขอให้กลุ่มอาเซียนจัดทำแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว ที่สอดคล้องกับสถานการณ์และตอบสนองต่อความคาดหวังของประชาชน
นายวิโดโด กล่าวว่า พวกเราในฐานะผู้นำกลุ่มอาเซียน จะต้องสร้างความมั่นใจว่า กลุ่มอาเซียน ซึ่งเปรียบดุจเรือลำนี้สามารถจะขับเคลื่อนข้ามทะเลต่อไป ซึ่งพวกเราในฐานะกัปตันเรือจะต้องควบเรือไปสู่จุดหมายคือ สันติภาพ ความมั่นคงและความเจริญก้าวหน้าด้วยกัน
สำหรับกลุ่มอาเซียนจัดตั้งขึ้นในยุคที่มีความตึงเครียดสูงในภูมิภาคนี้ในยุคสงครามเย็นในปี 2510 มุ่งสกัดกั้นการขยายอิทธิพลของลัทธิคอมมิวนิสต์ โดยอาเซียนเป็นองค์กรที่มีความหลากหลายทางการเมือง ให้ความสำคัญกับเรื่องเอกภาพและการไม่แทรกแซงกิจการของประเทศสมาชิก
แต่บรรดานักวิจารณ์ระบุว่า แนวคิดดังกล่าวทำให้อาเซียนมีข้อจำกัดในการแก้ปัญหาต่างๆเช่น ปัญหาเมียนมา ซึ่งเกิดเหตุวุ่นวายมา 2 ปีแล้ว นับแต่กองทัพเมียนมา ทำรัฐประหารในปี 2564
กลุ่มอาเซียนห้ามคณะรัฐประหารเมียนมาร่วมประชุมระดับสูงของกลุ่ม แต่มีความขัดแย้งภายในกลุ่มในประเด็นนี้เช่นกัน โดยอินโดนีเซียพยายามจะทำให้ทุกฝ่าย ผลักดันแผนสันติภาพตามแนวทางของกลุ่มอาเซียน ขณะที่ประเทศไทยพยายามจะติดต่อสัมพันธ์กับคณะรัฐประหารของเมียนมาโดยตรง ขณะที่ มาเลเซียขอให้กลุ่มอาเซียนใช้มาตรการที่เข้มงวดกับคณะรัฐประหารของเมียนมา โดยมาเลเซีย มองว่า คณะรัฐประหารของเมียนมา สร้างอุปสรรคต่อการผลักดันให้เมียนมาทำตามแผนสันติภาพของอาเซียน
#อาเซียนซัมมิท