อียูเผชิญวิกฤตซ้อนวิกฤต กระทบทั่วโลก ขาดแคลนอาหาร-สภาพอากาศแปรปรวน

           กรรมาธิการด้านเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (EU) ชี้ EU กำลังเผชิญกับผลกระทบจากวิกฤตซ้อนวิกฤต ซึ่งหมายถึงผลกระทบด้านภูมิรัฐศาสตร์จากการที่รัสเซียรุกรานยูเครน และผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตามมา ส่งผลต่อยุโรป วิกฤตดังกล่าวยังส่งผลกระทบถึงสหรัฐฯ และทั่วโลกด้วย

          สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยวันนี้ การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนออสเตรเลียปรับตัวลงร้อยละ 0.7 ใน เดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. 64 เนื่องจากผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น

            สำนักงานสถิติแห่งชาติตุรกี เปิดเผยว่า เงินเฟ้อตุรกีปรับตัวขึ้นมากที่สุดในปีนี้เมื่อเดือนส.ค. โดยพุ่งขึ้นแตะร้อยละ 58.9 ตอก ย้ำถึงปัญหาที่ธนาคารกลางตุรกี (CBRT) ต้องเผชิญ หลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อจัดการวิกฤตค่าครองชีพ

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกต่อเนื่องในวันนี้ โดยข้อมูลแรงงานสหรัฐที่เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 32,939.18 จุด เพิ่มขึ้น 228.56

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดพุ่งในวันนี้ รับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยอัตราว่างงานพุ่งขึ้นในเดือนส.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ระดับ 18,844.16 จุด เพิ่มขึ้น 462.10 จุด

          เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 35.21/23 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.12 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.94 - 35.26 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า หลังตัวเลขการผลิตออกมาดีกว่าที่คาด ประกอบกับปัจจัยเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงสูงด้าน สภาพคล่อง รวมถึงความกังวลต่อภาวะขาดแคลนอาหาร ซึ่งสภาพอากาศทั่วโลกในปีนี้ค่อนข้างแย่ ปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรลดลง ส่งผลให้ ราคาสูงขึ้น

           ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,548.68 จุด ลดลง 12.83 จุด  มูลค่าซื้อขาย 50,623.64 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 413.84 ลบ.

#วิกฤตเศรษฐกิจ