สำนักข่าวซินหัว รายงาน เมื่อช่วงเย็นของวันพุธ (30 ส.ค.) เสียงไวโอลินอันไพเราะแว่วดังมาจากสถานีตำรวจทองหล่อในกรุงเทพฯ ผู้บรรเลงบทเพลงคือศาสตราจารย์เซว เหว่ย นักไวโอลินชาวจีนที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพื่อแทนคำขอบคุณที่เขามีต่อมิตรสหายชาวไทยผู้ช่วยค้นหาไวโอลินเก่าแก่คันนี้ที่เขาลืมทิ้งไว้บนรถแท็กซี่จนเจอภายในข้ามคืน
คืนวันอังคาร (29 ส.ค.) เซวเหว่ยลืมไวโอลินอิตาลี รุ่นปี 1736 ไว้บนรถแท็กซี่ ขณะเดินทางกลับที่พักหลังร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนในย่านเมืองของกรุงเทพฯ หลังรู้ตัวว่าไวโอลินหายไป เซวเหว่ยและซุนว่านเฉียง เพื่อนของเขาผู้ดำรงตำแหน่งประธานหอการค้ามณฑลเหอเป่ยประจำประเทศไทย ได้เดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ซึ่งเป็นสถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ และได้ติดต่อไปยังสถานีวิทยุจส.100 สถานีวิทยุการจราจรไทย เพื่อประกาศค้นหาไวโอลิน
จ.ส.ต.เกรียงไกร กรไธสง ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ผู้รับผิดชอบคดีดังกล่าว ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสำนักข่าวซินหัวว่า หลังจากได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งค้นหาผู้ขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวทันที และพบคุณอุเทน เด่นขุนทด คนขับอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมากจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย หลังจากที่อุเทนพบของที่เซวเหว่ยลืมทิ้งไว้ เขากลับไปยังจุดที่เซวเหว่ยลงรถเพื่อตามหา จากนั้นคนขับได้นำไวโอลินคันดังกล่าวไปส่งที่สถานีตำรวจในช่วงเย็นของวันที่ 30 ส.ค. ก่อนที่การตามหาไวโอลินจะสำเร็จด้วยดี
ด้านเซวเหว่ย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวหลังรับคืนไวโอลินว่า เขาดีใจมาก เพราะไวโอลินคันเปรียบเหมือนส่วนหนึ่งของตัวเขาไปแล้ว อีกทั้งตนก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะพบมันเร็วขนาดนี้ หลังของหายและได้คืนเขาจึงหยิบไวโอลินคันนี้ขึ้นมาบรรเลงเพลงพื้นบ้านของจีน "เหยาหลานฉวี่" และเพลง "เมื่อรักมาทักทาย" (Salut d'Amour) ที่แต่งโดย เอ็ดเวิร์ด เอลการ์นักแต่งเพลงชาวอังกฤษ เพื่อแสดงความขอบคุณในแบบฉบับของศิลปิน พร้อมเผยว่าเหตุการณ์นี้ทำให้เขาซาบซึ้งในความมีน้ำใจของคนไทยและสัมผัสได้ถึงความหมายของวลี "จีน-ไทยใช่อื่นไกลพี่น้องกัน" ทั้งยังติดต่อกลับไปยังสถานีวิทยุจส.100 เพื่อแสดงความขอบคุณ และได้รับคำตอบกลับเพียงว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ช่วยเหลือ
จ.ส.ต.เกรียงไกร ระบุว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าของไวโอลินได้ของรักคืน พื้นที่ทองหล่อนั้นตั้งอยู่ในย่านใจกลางกรุงเทพฯ และเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว สน.จึงได้รับแจ้งเหตุลักษณะนี้ทุกวันและของที่สูญหายส่วนใหญ่ก็สามารถนำกลับคืนมาได้สำเร็จ ในฐานะตำรวจไทย เขายินดีที่ได้ช่วยเหลือชาวต่างชาติ ไม่ว่าทรัพย์สินที่สูญหายจะมีมูลค่าเท่าใด และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฏิบัติงานอย่างเต็มที่และจริงจังในกรณีทรัพย์สินสูญหายทุกกรณี เพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือชาวต่างชาติที่มาแจ้งความ โดยสนมีอาสาสมัครที่มาช่วยเหลือด้านการแปล ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจหวังอย่างยิ่งว่าจะปกป้องความปลอดภัยและสิทธิทางกฎหมายของชาวต่างชาติทุกคนในประเทศไทย และทำให้พวกเขาใช้ชีวิตในไทยได้อย่างปลอดภัยและสบายใจมากขึ้น
#ของหายได้คืน
#Js100Radio