กทพ.รับฟังความเห็นเอกชน 'พัฒนาพื้นที่ในเขตทางพิเศษ' มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ 25 พื้นที่

29 สิงหาคม 2566, 11:40น.


           การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ.เตรียมพัฒนาพื้นที่ใต้ทางพิเศษ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ 3 กลุ่ม 25 พื้นที่ เพื่อให้เอกชน ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการต่างๆ มาร่วมลงทุน เพื่อใช้ประโยชน์พื้นที่ได้อย่างเต็มที่



          วันนี้(29 ส.ค.66) เป็นการเปิดรับฟังความคิดเห็นเบื้องต้นจากภาคเอกชน ภายใต้โครงการการประเมินความสนใจของนักลงทุน (Market Soundine)  มีนักลงทุน นักธุรกิจ และผู้ประกอบการจำนวนมาก มารับฟังข้อมูลรายละเอียดของพื้นที่ที่มีศักยภาพ รวมทั้งร่วมเสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การเช่าพื้นที่ การร่วมลงทุน และโอกาสการทำธุรกิจต่างๆ โดยมีผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้าน มาตอบคำถามข้อสงสัยจากนักลงทุน



            นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กทพ.มีพื้นที่ใต้ทางยกระดับที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แต่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ ทั้งแปลงพื้นที่ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 กลุ่ม 25 พื้นที่ ได้แก่ กลุ่มพื้นที่ศักยภาพในเมือง เช่น ทางพิเศษศรีรัช มีพิกัดถนนสีลมและสำนักงานอโศก,ทางพิเศษเฉลิมมหานคร พิกัดถนนเพลินจิต,ทางพิเศษฉลองรัช พิกัดปากซอยวัชรพล เป็นต้น



         กลุ่มพื้นที่ศักยภาพชานเมือง  เช่น ทางพิเศษอุดรรัถยา  พิกัดพื้นที่ศรีสมาน , ทางพิเศษฉลองรัช  พิกัด : จตุโชติ-วงแหวนรอบนอก เป็นต้น 



        กลุ่มพื้นที่เตรียมพร้อมรองรับสู่การติดตั้ง  EV STATION  เช่น ทางพิเศษศรีรัช พิกัดพระราม 6 ซอย 20 พิกัดหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางรามคำแหง และพิกัด งามวงศ์วาน 21,ทางพิเศษศรีรัช พิกัด พระราม 9 - อโศก,ทางพิเศษเฉลิมมหานคร พิกัดจุดกลับรถเซ็นทรัลพระราม 3 เป็นต้น







          พื้นที่ศักยภาพทั้ง 25 พื้นที่ อยู่ในย่านเศรษฐกิจ เป็นศูนย์กลางในการเดินทาง เข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่าย อยู่ใกล้ถนนใหญ่ หรือ ถนนสายหลัก มีทางเข้า-ออกที่สะดวก เป็นทำเลที่มีธุรกิจร้านค้าให้บริการอย่างครบครัน เป็นพื้นที่ที่มีโอกาสทางธุรกิจสูง สามารถพัฒนาได้ในอนาคต โดยการรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนในวันนี้ จะนำไปปรับปรุงแพ็คเกจต่างๆ ให้เหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของภาคเอกชน ซึ่งเชื่อว่าโครงการนี้ จะสร้างรายได้ให้กับ กทพ.นอกเหนือจากรายได้จากการเก็บค่าผ่านทาง



           พื้นที่ที่จะเริ่มดำเนินการก่อน คือ กลุ่มพื้นที่ศักยภาพในเมือง เช่น สีลม อโศก เพลินจิต เป็นต้น  โดยมีทั้งรูปแบบการให้เช่าประมูลพื้นที่ การพัฒนาพื้นที่เพื่อจัดแบ่งผลประโยชน์  การร่วมทุนแบบ ppp หรือ Joint Venture กับหน่วยธุรกิจหรือบริษัทลูกของ กทพ. 



          ส่วนเงื่อนไขในการทำธุรกิจหรือพัฒนาพื้นที่ เช่น สามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างแบบชั่วคราวและถาวรได้ แต่ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของ กทพ.และไม่ทำให้โครงสร้างของ กทพ.เสียหาย, รูปแบบการพัฒนาพื้นที่ ห้ามใช้พื้นที่ในลักษณะอันตรายหรือมีผลกระทบต่อโครงสร้างของทางพิเศษหรือกระทบกับผู้ใช้ทางพิเศษ รวมทั้งต้องไม่ทำธุรกิจประเภทสถานีบริการน้ำมัน ปั๊มแก๊ส ผับ บาร์ หรือกิจการผิดกฎหมาย



            กทพ.คาดว่า หลังการรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ปีก็จะเริ่มเปิดประมูล ส่วนหลักเกณฑ์การร่วมลงทุน จะมีการพิจารณาเป็นรายโครงการ และ กทพ.จะประกาศหลักเกณฑ์ให้ผู้ลงทุนที่สนใจรับทราบต่อไป  โดยรูปแบบการคัดเลือกผู้ลงทุนจะเป็นไปอย่างโปร่งใส และเป็นธรรม



           นอกจากพื้นที่ที่นำเสนอวันนี้แล้ว กทพ.ยังคงมีพื้นที่ศักยภาพทั้งในเมืองและชานเมืองตามแนวเขตทางพิเศษอีกหลายพื้นที่  ซึ่งหลังจากหมดสัญญากับผู้เช่ารายเดิม และมีความชัดเจนของการพัฒนาพื้นที่เกี่ยวเนื่องโดยรอบ ก็จะได้นำมาเปิดประมูล หรือร่วมลงทุนต่อไป ภายในปี 2571



 



#การทางพิเศษแห่งประเทศไทย



#พัฒนาพื้นที่ในเขตทางพิเศษ



 



 

ข่าวทั้งหมด

X