ตำรวจตั้งหลายแนวทางคลี่คลายคดีโรฮิงญา

03 พฤษภาคม 2558, 07:25น.


ความคืบหน้ากรณีพบค่ายพักและสุสานฝังศพชาวโรฮิงญากว่า 30 ศพบนยอดเขาแก้วบ้านตะโล๊ะ หมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ห่างชายแดนไทย-มาเลเซีย 300 เมตร



พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า มีการวาง 3 แนวทางเพื่อคลี่คลายคดีคือ  คดีใน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ที่มีการแจ้งความลักพาตัวชาวโรฮิงญาไปเรียกค่าไถ่ซึ่งมีการออกหมายจับแล้ว 4 คน ที่จะมีการสืบสวนเพื่อหาความเชื่อมโยงกับคดีที่สงขลา กับให้มีการตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิต และการสอบสวนชาวโรฮิงญาที่ป่วยอยู่ในแคมป์ นอกจากนี้ ยังให้ตรวจพื้นที่โดยรอบว่ายังมีชาวโรฮิงญาผู้ที่หลงเหลืออยู่หรือไม่ และให้สอบสวนหาความเชื่อมโยงกับคดีฆ่านายหน้า 2 ศพในพื้นที่ จ.สตูลและปาดังเบซาร์เมื่อปลายปี 2557 ด้วย หากพบว่าเป็นการค้ามนุษย์จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดรวมทั้งจัดการกับศพที่พบตามหลักศาสนาอิสลาม



ในส่วนของการลำเลียงศพผู้เสียชีวิต บางส่วนนำไปตรวจพิสูจน์ที่ รพ.สงขลานครินทร์อีกบางส่วนนำไปฝังที่สุสานบ้านพรุ อ.หาดใหญ่ รอการชันสูตรและตรวจดีเอ็นเอ



ด้านนายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่กรณีนี้จะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ ต้องรอให้ตำรวจสอบสวนให้ชัดเจนก่อนและต้องหาต้นตอให้ได้โดยเร็วที่สุดเพราะข่าวที่เกิดขึ้นไม่เป็นผลดีกับไทย  ต้องหาความจริงให้ปรากฏ  ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะชี้แจงกับต่างประเทศและนานาชาติต่อไป



...

ข่าวทั้งหมด

X