เกิดเหตุกราดยิงในห้างรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ เสียชีวิต 4 รายรวมคนร้าย แรงจูงใจจากการเหยียดผิว

                 สำนักข่าวบีบีซี รายงานเกิดเหตุกราดยิงภายในห้างสรรพสินค้าดอลลาร์ เจเนอรัล ในเมืองแจ็กสันวิลล์เมื่อบ่ายวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่นโดยมีเหตุจูงใจจากการเหยียดผิว

                 นายที เค วอเตอร์ส นายอำเภอเมืองแจ็กสันวิลล์ รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ  แถลงว่า เหตุการณ์นี้ มีคนผิวสีเสียชีวิต 3 ราย เป็นชาย 2 ราย และหญิง 1 ราย  ส่วนผู้ก่อเหตุ เป็นชายผิวขาว วัย 20 ปีเศษ บุกเข้าไปกราดยิงคนในห้าง เมื่อตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุและเผชิญหน้ากับคนร้าย  โดยตำรวจพยายามเจรจาให้คนร้ายมอบตัว แต่คนร้ายไม่ยอม พร้อมทั้งใช้ปืนกระบอกเดียวกันฆ่าตัวตายหนีความผิด

            นายวอเตอร์ส ระบุว่า  ตำรวจตรวจพบว่า มือปืนสวมเสื้อเกราะกันกระสุน พร้อมทิ้งจดหมายลาตาย 3 ฉบับในที่เกิดเหตุ มีอาวุธปืน 2 กระบอก คือ ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ 1 กระบอก กับ ปืนพก 1 กระบอก โดยตำรวจเชื่อว่า คนร้ายมีคนเดียว  นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า คนร้ายอาศัยอยู่กับพ่อแม่ในเทศมณฑลเคลย์ และทิ้งจดหมายลาตาย 3 ฉบับ เขียนถึงพ่อแม่ และอีกฉบับหนึ่งเขียนถึงสื่อมวลชน ทำให้ตำรวจเชื่อว่า มือปืนรายนี้ก่อเหตุกราดยิงคน เนื่องจากเป็นวันครบ 5 ปีเหตุการณ์ที่มือปืนรายหนึ่งกราดยิงในงานแข่งขันวิดีโอเกมส์ในเมืองแจ็คสันวิลล์ มีคนเสียชีวิต 2 รายก่อนคนร้ายฆ่าตัวตาย

            สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ)ของสหรัฐฯ เริ่มทำการสอบสวนคดีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นคดีอาชญากรรมที่มีมูลเหตุจากความเกลียดชัง ขณะเดียวกัน ห้างดอลลาร์ เจเนอรัล ระบุในแถลงการณ์ แสดงความเสียใจที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นที่ห้างฯ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนคิงโรด  พร้อมระบุว่า พนักงานของห้างดอลลาร์ เจเนอรัล ในเมืองแจ็คสันวิลล์  จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับตำรวจในการสอบสวนคดีนี้

               ด้านศูนย์รวบรวมข้อมูลอาชญากรรมปืนในสหรัฐฯกัน ไวโอเลนซ์ อาร์ไคฟ (Gun Violence Archive) ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากการถูกฆ่าด้วยปืนกว่า 28,000 รายในสหรัฐฯในปีนี้

#เหตุรุนแรงในสหรัฐฯ