ประกาศรับรองเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว และอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานมรดกอาเซียน (AHP)
นางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 17 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติลาว นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้ประกาศรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานมรดกอาเซียน (AHP) ของประเทศไทย 2 แห่ง คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวและอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เป็นอุทยานมรดกอาเซียนแห่งที่ 56 และอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นอุทยานมรดกอาเซียนแห่งที่ 57 อย่างเป็นทางการ
ทั้ง 2 แห่งมีลักษณะความโดดเด่นของพื้นที่และมีคุณสมบัติโดดเด่น เป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณาขึ้นทะเบียนอุทยานมรดก แห่งอาเซียน โดยเฉพาะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพืชพันธุ์หายากจำนวนมาก เช่น หญ้าดอกลำโพง ผักชีภูกระดึง กุหลาบขาว กุหลาบแดง รวมทั้ง มีสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น เลียงผา ลิ่นชวา เต่าเหลือง ค่างแว่นถิ่นเหนือ ชะนีมือขาว ซึ่งในพื้นที่ยังมีกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นสำคัญและสร้างรายได้ให้กับลูกหาบ ถือเป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น
ส่วนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่าร้อยละ 96.65 มีความหลากหลายทางธรณีวิทยาและลักษณะของถ้ำ โดยมีความโดดเด่น เช่น ถ้ำครอบ ถ้ำใหญ่น้ำหนาว และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพันธุ์พืชหายาก เช่น จำปีศรีเมืองไทย กระโถนพระฤาษี สนสามพันปี แล้วยังมีสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น แมวลายหินอ่อน เลียงผา เนื้อทราย เสือลายเมฆ และในพื้นที่ยังมีประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นสำคัญ เช่น ประเพณีการแขวนทุง (แขวนธง) ประเพณีบุญบั้งไฟ
ทั้งนี้ การได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกแห่งอาเซียพื้นที่จะได้รับประโยชน์ ทั้งด้านเศรษฐกิจ มีคนรู้จักพื้นที่เพิ่มมากขึ้นจะส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจโดยรอบพื้นที่ และสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่เพิ่มขึ้น ด้านการมีส่วนร่วม เมื่อประชาชนในพื้นที่เห็นคุณค่าความสำคัญของพื้นที่ ส่งผลให้ทุกภาคส่วนอยากเข้ามามีส่วนร่วมในดูแลพัฒนาพื้นที่เพื่อความยั่งยืนมากขึ้น
ด้านสิ่งแวดล้อม ได้รับการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวทางนิเวศวิทยาที่เป็นรูปแบบการจัดการพื้นที่คุ้มครองที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การเสริมสร้างพันธมิตร โปรแกรมอุทยานมรดกแห่งอาเซียนจะเป็นการสร้างเครือข่ายภาคีทั้งในระดับประเทศและระดับอาเซียน รวมถึง ผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่จะได้รับการสนับสนุนในการเสริมสร้างศักยภาพ และพื้นที่มรดกแห่งอาเซียนจะได้โอกาสรับการสนับสนุนงบประมาณจากโปรแกรมอุทยานมรดกแห่งอาเซียนในอนาคต
สำหรับในปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ได้รับการรับรองเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน 7 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา กลุ่มอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะสิมิลันและอ่าวพังงา กลุ่มป่าแก่งกระจาน ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน,อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี,อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม-เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง,อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง และอุทยานแห่งชาติเขาสก
#อุทยานมรดกอาเซียน