ADB กังวลวิกฤตค่าครองชีพจะทำให้เอเชียยากจนขั้นรุนแรง แนะรัฐบาลเร่งพัฒนาทุนมนุษย์

          ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือเอดีบี (Asian Development Bank : ADB) เผยแพร่รายงานดัชนีชี้วัดสำคัญสำหรับเอเชียและแปซิฟิก ประจำปี 2566 (Key Indicators for Asia and the Pacific 2023) ระบุว่า วิกฤตค่าครองชีพที่สูงขึ้นเนื่องมาจากภาวะเงินเฟ้อในปี 2565 ประกอบกับผลกระทบจากโควิด-19 จะส่งผลให้ประชาชนในภูมิภาคเอเชีย และแปซิฟิกเข้าสู่ภาวะยากจนขั้นรุนแรง

          ทั้งนี้ ประชากรราว 155 ล้านคน อยู่ในกลุ่มผู้ที่มีความยากจนขั้นรุนแรงในปี 2565 เป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้น 67 ล้านคน จากในช่วงก่อนที่โควิด-19 จะแพร่ระบาด โดยการนิยามความยากจนขั้นรุนแรงคือ การดำรงชีพด้วยเงินไม่ถึง 2.15 ดอลลาร์ต่อวัน (ประมาณ 75 บาทต่อวัน)

          นายอัลเบิร์ต พาร์ค ผู้อำนวยการเอดีบี กล่าวว่า เอเชียและแปซิฟิกกำลังอยู่ในช่วงการฟื้นตัวจากโควิด-19 แต่วิกฤตค่าครองชีพที่มีความรุนแรงมากขึ้นกำลังบั่นทอนความคืบหน้าในการทำงานเพื่อขจัดความยากจน วิกฤตค่าครองชีพทำให้คนยากจนไม่สามารถซื้อสิ่งของจำเป็นที่มีราคาแพงขึ้น ไม่สามารถออมเงิน ไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อดูแลรักษาสุขภาพ และไม่สามารถใช้จ่ายเพื่อการศึกษา

          แต่คาดว่าภายในปี 2573 ประชากรประมาณร้อยละ 30.3 ของภูมิภาค หรือประมาณ 1,260 ล้านคน อาจจะอยู่ในกลุ่มที่มีความเปราะบางทางเศรษฐกิจ ซึ่งหมายถึงกลุ่มผู้ที่ดำรงชีพด้วยเงินประมาณ 3.65-6.85 ดอลลาร์ต่อวัน (ประมาณ 127-239 บาทต่อวัน)

          เอดีบี แนะนำว่ารัฐบาลในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกควรเสริมสร้างระบบการป้องกันสังคมให้แข็งแกร่ง เพิ่มการสนับสนุนการพัฒนาด้านการเกษตร ปรับปรุงการเข้าถึงบริการด้านการเงินของประชาชน ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และส่งเสริมนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี ตลอดจนการพัฒนาทุนมนุษย์ สร้างโอกาสในการจ้างงาน เพื่อให้รัฐบาลสามารถกลับมาบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

...

#ADB

#เอเชียแปซิฟิก

#วิกฤตเงินเฟ้อ

#วิกฤตค่าครองชีพ