แหล่งข่าวกลาโหมของสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า หน่วยข่าวกรองภายในประเทศ หรือ FSB ของรัสเซียอาจจะอยู่เบื้องหลังการโจมตีเครื่องบินของ นายเยฟเกนี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์ตกเมื่อวานนี้ ขณะบินจากกรุงมอสโกมุ่งหน้ายังนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มีผู้เสียชีวิต 10 คน รวมถึงนายพริโกซิน พร้อมระบุว่า หน่วย FSB เป็นกลุ่มที่ภักดีต่อนายปูตินและควบคุมกองกำลังชายแดน หน่วยข่าวกรองกลาโหมของสหราชอาณาจักรระบุว่า การเสียชีวิตของนายพริโกซินจะทำให้ตำแหน่งของพลเอกเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย และพลเอกวาเลรี เกราซีมอฟ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของกองทัพรัสเซียมีความเข้มแข็งมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา นายพริโกซิน เคยวิจารณ์นายทหารทั้งสองคนต่อสาธารณะมาหลายครั้งเรื่องความล้มเหลวในเรื่องปฏิบัติการทางทหารรัสเซียในยูเครน
ส่วนการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว(กลุ่มบริกส์)คือ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ประชุมในเมืองโยฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ในวันนี้ เป็นการประชุมวันที่ 3 หรือวันสุดท้ายของการประชุม ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้กล่าวปราศรัยสั้นๆต่อที่ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ขอบคุณประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ของแอฟริกาใต้สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม และมีการเพิ่มจำนวนสมาชิกให้มากกว่า 5 สมาชิกเดิมในปัจจุบัน ทั้งนี้ ที่ประชุมกลุ่มบริกส์ ตกลงเชิญ 6 ประเทศคือ อาร์เจนตินา อียิปต์ อิหร่าน เอธิโอเปีย ซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของกลุ่มบริกส์
บีบีซีรายงานว่า นายปูตินพูดตามสคริปต์ที่เตรียมมา เน้นเรื่องประเด็นการขยายจำนวนสมาชิกของกลุ่มบริกส์ เพื่อให้กลุ่มบริกส์มีบทบาทมากขึ้นในเวทีโลก แต่นายปูตินไม่ได้พูดถึงเหตุเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของนายพริโกซิน ตกเมื่อวานนี้ อาจจะเป็นเพราะเป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ผู้นำรัสเซียไม่ต้องการจะเอ่ยถึง หรืออาจจะเป็นเพราะเวทีประชุมนี้ไม่ใช่เวทีสำหรับชี้แจงเรื่องปัญหาภายในประเทศ
ทั้งนี้ การที่นายปูตินไม่เดินทางไปร่วมประชุมกลุ่มบริกส์ในแอฟริกาใต้เพราะมีหมายจับจากศาลอาญาระหว่างประเทศในข้อหาอาชญากรรมสงครามในยูเครน ขณะเดียวกัน นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งเข้าร่วมประชุมกลุ่มบริกส์ในแอฟริกาใต้ในฐานะตัวแทนของประธานาธิบดีปูตินอยู่ในห้องประชุม แต่ไม่ได้แถลงใดๆต่อที่ประชุม
#ผู้นำรัสเซียแถลงต่อกลุ่มบริกส์
#แกนนำแวกเนอร์ตาย