การประชุมผู้นำกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว(กลุ่มบริกส์) ในเมืองโยฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่สองของการประชุมรวม 3 วัน มีประธานาธิบดีลูอีซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย(เข้าประชุมในฐานะตัวแทนจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย และประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ของแอฟริกาใต้ ร่วมประชุม โดยนายปูตินร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
นายปูติน เริ่มต้นการปราศรัยต่อที่ประชุมด้วยการขอบคุณประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆในกลุ่มบริกส์ ระบุว่ากลุ่มบริกส์ ซึ่งมีสมาชิก 5 ประเทศได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นองค์กรที่ได้รับความเชื่อถือในเวทีระดับโลก มีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆในเวทีโลก ระบุว่า บริกส์ หมายถึงระเบียบโลกใหม่ ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎบัตรแห่งสหประชาชาติ และหมายถึงสิทธิ์ของประชาชนในการพัฒนาประเทศของตนเอง
นายปูติน กล่าวว่า การที่ชาติตะวันตกบางประเทศส่งเสริมลัทธิการล่าอาณานิคม นำไปสู่วิกฤตร้ายแรงในยูเครน ระบุว่าการปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนเป็นการตอบสนอง ต่อสงครามที่ชาติตะวันตกเป็นฝ่ายยั่วยุให้เกิดขึ้น เพิ่มเติมว่าเป้าหมายของชาติตะวันตกคือ การรักษาแนวคิดการใช้อำนาจครอบงำประเทศอื่นๆ ซึ่งนำไปสู่การทำรัฐประหารในยูเครน(ในปี 2557)
นายปูติน กล่าวว่า รัสเซียตัดสินใจที่จะสนับสนุนประชาชน(ในแคว้นดอนบาสทางภาคตะวันออกของยูเครน)ที่ต่อสู้เพื่อปกป้องวัฒนธรรม ธรรมเนียมปฏิบัติ ภาษาและอนาคตของตนเอง ระบุว่า การปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนมุ่งหมายเพื่อยุติสงคราม ซึ่งชาติตะวันตก(ใช้ยูเครนเป็นเครื่องมือ)ในการใช้กำลังปราบปรามประชาชนในแคว้นดอนบาส
ในประเด็นนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายปูตินโทษชาติตะวันตกว่าเป็นต้นเหตุของสงครามในยูเครน จากการวิเคราะห์ของนายปูติน วิกฤตเริ่มต้นขึ้นหลังมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลยูเครนในปี 2557 ซึ่งนายปูตินเรียกว่า เป็นการทำรัฐประหาร หลังมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลยูเครน รัสเซียได้ผนวกอ่าวไครเมียเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่ง พร้อมสนับสนุนให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนที่ฝักใฝ่รัสเซียเข้ายึดครองดินแดนในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน ต่อมารัสเซียบุกยูเครนอย่างเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
ส่วนผู้นำคนอื่นๆ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีน เริ่มต้นด้วยการกล่าวว่า พวกเขามาประชุมกันในช่วงที่สถานการณ์โลกเข้าสู่ระยะเวลาใหม่แห่งความผันผวนและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื้อหาการปราศรัยส่วนใหญ่ของนายสี เน้นเรื่องสันติภาพและการพัฒนา ย้ำว่ากลุ่มบริกส์จะทำให้โลกมีความแน่นอน มั่นคงและมีพลังบวกมากขึ้น
ในประเด็นเรื่องความมั่นคง ผู้นำจีนกล่าวว่า แนวคิดยุคสงครามเย็นยังคงหลอกหลอนคนทั่วโลก พร้อมขอให้สมาชิกกลุ่มบริกส์ให้ความสำคัญกับเรื่องการพัฒนาอย่างสันติ
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย ชื่นชมความสำเร็จของกลุ่มบริกส์เมื่อเร็วๆนี้ เช่น การจัดตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ (New Development Bank)ซึ่งนายโมดี มองว่า จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาของกลุ่มประเทศโลกซีกใต้ (Global South) พร้อมเสนอแนวคิดจัดตั้งโครงการสำรวจอวกาศของกลุ่มบริกส์ พร้อมทั้งสนับสนุนอย่างเต็มที่ในเรื่องการเพิ่มจำนวนสมาชิกใหม่ของกลุ่มบริกส์
กลุ่มบริกส์ มีประชากร 3,500 ล้านคน หรือกว่าร้อยละ 40 ของประชากรโลก คิดเป็นหนึ่งใน 4 ของจีดีพีทั่วโลก กว่า 40 ประเทศ เช่น ซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน ต้องการสมัครร่วมเป็นสมาชิกเนื่องจากหลายฝ่ายมองว่า เป็นทางเลือกใหม่ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในเวทีโลก
#กลุ่มบริกส์