นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่มี สส. ของพรรคส่วนหนึ่งโหวตสวนมติพรรคว่า ตนสั่งให้ชี้แจงในที่ประชุม สส. ในการประชุมครั้งหน้า และหากมีสมาชิกเข้าชื่อกันร้องให้ตรวจสอบหรือสอบสวนตามข้อบังคับพรรค ตนก็จะดำเนินการตามนั้น เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการก็ให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรค แม้ว่าการโหวตเลือกนายกฯ จะเป็นเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ แต่ข้อบังคับพรรคก็มีอยู่
กรณีที่นายชวน หลีกภัย โหวตไม่เห็นชอบ นายจุรินทร์ ระบุว่า นายชวนได้ขอต่อที่ประชุมแล้วว่าจะขอโหวตไม่เห็นชอบ ซึ่งที่ประชุมก็ไม่มีใครขัดข้อง
ส่วนเหตุผลที่มี สส.โหวตสวนมติพรรค นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบ และไม่มีการแจ้งล่วงหน้าด้วย แต่ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค ตนยืนคำเดิมว่า ในนามพรรค ยังไม่เคยมอบใครไปเจรจาเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองใดทั้งสิ้นจนถึงขณะนี้ ส่วนสมาชิกพรรคที่โหวตเห็นชอบ เพื่อต้องการเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ หรือโหวตให้เฉยๆ ก็คงต้องไปถามคนโหวต
นายจุรินทร์ ย้ำว่า “ประชาธิปัตย์มีศักดิ์ศรี เราเคยเป็นทั้งรัฐบาล เคยเป็นทั้งฝ่ายค้าน จะเป็นอะไรก็เป็น ไม่มีปัญหาแต่เราไม่เคยไปเป็นพรรคอะไหล่ ผมคิดว่าเราชัดเจนในเรื่องนี้”
ส่วนกรณีนี้จะส่งผลต่อการเลือกหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า คงตอบล่วงหน้าไม่ได้ แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็จะต้องอยู่ สำหรับตนนั้นความเป็นพรรคสูงสุด นอกเหนือจากหน้าที่ที่จะต้องทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประชาชน พรรคก็ต้องอยู่เพราะพรรคเป็นองค์กร
กรณีมีข่าวว่าพรรคก้าวไกลอาจจะไม่ได้รับเป็นผู้นำฝ่ายค้านนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนั้นก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและต้องเป็นไปตามข้อบังคับของสภาว่าผู้นำฝ่ายค้านจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ถ้าจำไม่ผิด เข้าใจว่าต้องเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีเสียงมากที่สุดในฝ่ายค้าน แล้วก็จะต้องไม่มีสมาชิกไปเป็นประธานสภา หรือรองประธานสภา ตอนนี้ต้องถือว่า พรรคก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองที่มีสมาชิกมากที่สุดในฝั่งนี้ ซึ่งถ้ามีการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ ก็หมายถึงซีกฝ่ายค้าน
สำหรับมติพรรคประชาธิปัตย์ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมพรรคมีมติให้งดออกเสียง ส่วนนายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ และนายสรรเพชร บุญญามณี สส.สงขลา จะโหวตไม่เห็นชอบ
แต่เมื่อถึงเวลาขานชื่อลงคะแนน สส.พรรคประชาธิปัตย์กลับไม่แสดงตัวและมีเพียง พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาราเล่ สส.สงขลา และนางอำนวยศรี เชาวลิต สส.นครศรีธรรมราช ที่โหวตเห็นชอบ หลังจากประธานรัฐสภา สั่งพักการประชุม เพราะ สส.พรรคก้าวไกลเป็นลมหมดสติในห้องประชุม จากนั้นก็กลับมาโหวตต่อ ก็มี สส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ลงคะแนนในตอนต้น กลับมาโหวตให้นายเศรษฐาอีก 14 คน รวมเป็น 16 คนที่โหวตเห็นชอบสวนมติพรรค ประกอบด้วย
นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา
นายศักดิ์สิทธ์ ขาวทอง สส.สงขลา
น.ส.สุภาพร กำเนิดผล สส.สงขลา
นายยูนัยดี วาบา สส.ปัตตานี
นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช
นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช
นายทรงศักดิ์ มุสิกอง สส.นครศรีธรรมราช
ว่าที่ ร.ท.ยุทธการ รัตนมาศ สส.นครศรีธรรมราช
นางสุพัชรี ธรรมเพชร สส.พัทลุง
นายกาญจน์ ตั้งปอง สส.ตรัง
นายสมบัติ ยะสินธุ์ สส.แม่ฮ่องสอน
นายวุฒิพงษ์ นามบุตร สส.อุบลราชธานี
นายชาตรี ล้าพรหม สส.สกลนคร
นายจักรพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ สส.ประจวบคีรีขันธ์
ส่วนนายร่มธรรม ธรรมเพชร สส.พัทลุง,น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง,นายสมยศ พรายด้วง สส.สงขลา,และนายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ โหวตงดออกเสียง ส่วนนายราชิต จิตพุ่ม สส.นครศรีธรรมราช มาลงชื่อเข้าประชุมแต่ไม่ได้ร่วมโหวต เนื่องจากป่วย ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า สส.ประชาธิปัตย์ 21 คน จะโหวตเห็นชอบนายเศรษฐา แต่ลงมติจริงโหวตเห็นชอบ 16 คน เนื่องจากที่เหลือลงมติไปก่อนแล้ว เพราะการประสานงานกับพรรคเพื่อไทยมาได้ข้อสรุปในนาทีสุดท้ายก่อนปิดโหวต
#งูเห่าประชาธิปัตย์
#โหวตสวนมติพรรค
#โหวตนายกรอบสาม
#พรรคประชาธิปัตย์