หอการค้าไทยเร่งรัฐบาลชุดใหม่ แก้ไข 3 ข้อ 100 วันแรกของการรับตำแหน่ง

22 สิงหาคม 2566, 20:28น.


          หลังรัฐสภามีมติเห็นชอบให้ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผย ถือเป็นเรื่องน่ายินดี ที่วันนี้การเลือกนายกรัฐมนตรี สามารถดำเนินการสำเร็จจนเป็นที่เรียบร้อย เป็นไปตามความต้องการของหลายฝ่าย ที่ต้องการให้ประเทศไทยมีรัฐบาลชุดใหม่เร็วที่สุด เพื่อเข้าสู่โหมดการเดินหน้าเศรษฐกิจ และแก้ไขปัญหาต่างๆ หลังจากนี้ คงเป็นไปตามกระบวนการทางการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่จะต้องมีการฟอร์มคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ซึ่งต้องติดตามว่าจะมีบุคคลใดมาประกอบเป็น ครม.



          โดยภาคเอกชนหวังว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีและตำแหน่งต่างๆ จะมีการพิจารณาบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นผู้เชี่ยวชาญและเหมาะสมในแต่ละด้านอย่างแท้จริง



          สำหรับประเด็นข้อเร่งด่วนที่หอการค้าฯ ต้องการส่งสัญญาณถึงรัฐบาลใหม่ เพื่อให้เร่งดำเนินการทันทีในช่วง 100 วันแรก ของการรับตำแหน่ง ได้แก่



1. การแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และลดต้นทุนภาคเอกชน ทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้าที่ยังอยู่ในระดับสูง และปัญหาที่กระทบต่อการแข่งขันและการส่งออกของไทย รวมทั้งการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการ



2. เร่งเสริมความโดดเด่นภาคการท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายและถือเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกเรื่องการทำวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีนให้รวดเร็ว และการเพิ่มเที่ยวบินรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น



3. เร่งเบิกจ่ายงบประมาณที่ยังค้างท่ออยู่ และจัดทำงบประมาณรายจ่าย 2567 ให้เกิดความต่อเนื่องในการขับเคลื่อนแผนงานต่างๆ ทั่วประเทศ ตลอดจนเร่งสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน เพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนใหม่ๆ จากต่างชาติ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการจ้างงาน และเป็นผลดีต่อตัวเลขการส่งออกในอนาคต



          นายสนั่น กล่าวว่า หอการค้าฯ ได้มีการหารือกับคณะกรรมการและสมาชิก ถึง 3 ประเด็น ข้างต้น เพื่อนำเสนอรัฐบาลชุดใหม่พิจารณาดำเนินการทันที เนื่องจากวันนี้ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะซึมตัวต่อเนื่อง รวมถึงปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ยังมีความรุนแรง อยู่ หากประเทศไทยมีรัฐบาลในช่วงเวลานี้ ก็จะสามารถช่วยดึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและภาคธุรกิจต่างๆ กลับมาที่ประเทศไทยได้



          ขณะนี้เศรษฐกิจไทยเองก็มีความน่าเป็นห่วง สะท้อนจากตัวเลขสภาพัฒน์ที่เปิดเผยออกมาว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/2566 GDP โตเพียงร้อยละ 1.8 (ต่ำกว่าที่คาดไว้ร้อยละ 3.0) โดยเฉลี่ยครึ่งปี แรก GDP โตเพียงร้อยละ 2.2 ซึ่งปัจจุบันแม้จะมีรัฐบาลรักษาการ แต่การขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ ไม่ สามารถดำเนินการได้เต็มที่ ทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างจำกัด ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจไทยจะ เติบโตหลุดเป้า ร้อยละ 3.0 ในปีนี้



          หอการค้าฯ มั่นใจว่าหากรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ จะมีการเน้นนโยบายกระตุ้น เศรษฐกิจอย่างจริงจัง และตรงจุด รวมถึงดำเนินการตาม 3 ประเด็นเร่งด่วนตามข้อเสนอของหอการค้า ไทย ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 4/66 ของปีนี้กลับมาเติบโตได้โดดเด่น และทำให้ ภาพรวมสามารถเติบโตตามเป้าหมายได้เกินร้อยละ 3.0



 



 



#หอการค้าไทย 



#แก้ปัญหาเศรษฐกิจ



 

ข่าวทั้งหมด

X