กรมราชทัณฑ์ เผย ‘ทักษิณ’ มีโรคประจำตัวต้องเฝ้าระวัง แยกขังคนเดียวในแดน 7

          นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์  แถลงการรับตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาโทษจำคุก 8 ปี  โดยขณะนี้นายทักษิณ เข้าสู่เรือนจำแล้วเรียบร้อย ตามมาตรการรับตัวคนเข้าใหม่  เปลี่ยนใส่ชุดนักโทษสีขาว จัดทำทะเบียนประวัติ ตรวจสุขภาพโดยแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ พบว่า  นายทักษิณจัดเป็นผู้ต้องโทษในกลุ่มเปราะบาง เนื่องจาก อายุ 74 ปี เป็นผู้สูงอายุและผลตรวจเบื้องต้นมีโรคประจำตัวต้องเฝ้าระวังหลายโรค คือ

- กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ต้องติดตามการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางอย่างใกล้ชิดและต้องกินยาสลายลิ่มเลือดอย่างต่อเนื่อง

- มีโรคปอด เนื่องจากมีประวัติเป็นปอดอักเสบรุนแรงจากการติดโควิด-19 มีผังผืดในปอด ซึ่งต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง  

- มีโรคความดันโลหิตสูง ต้องควบคุมและรักษาด้วยการกินยา  ซึ่งการตรวจวันนี้พบว่าความดันโลหิตมีความผิดปกติ  

- ภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมตามอายุ  กดทับเส้นประสาท ทำให้ปวดเรื้อรังและทรงตัวผิดปกติ

           เบื้องต้น จะแยกคุมขังไว้แดน 7 เฉพาะนายทักษิณคนเดียว ซึ่งเป็นแดนที่จัดไว้สำหรับผู้ต้องขังที่มีปัญหาสุขภาพ และเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง จำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังใกล้ชิด ตามหลักปฏิบัติของเรือนจำทั่วไป  เพื่อความปลอดภัยในกรณีเจ็บป่วย  โดยโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีแพทย์เฉพาะทางรักษาบางโรค จึงต้องรอสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง  หากจำเป็น อาจพิจารณาส่งโรงพยาบาลตำรวจเป็นอันดับแรก

          ด้านนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์จะมี 3 มาตรการ คือ

1.ดูแลความปลอดภัยของนายทักษิณ ทั้งเรื่องความเป็นอยู่ อาหารและการเข้าเยี่ยม 

2.นายทักษิณ อาจมีผู้เยี่ยมจำนวนมาก จึงต้องจัดสถานที่เข้าเยี่ยมเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน 

3.นายทักษิณ มีอายุมาก จึงต้องดูแลเรื่องสุขอนามัยเป็นหลัก เพื่อไม่ให้เจ็บป่วยระหว่างอยู่ในเรือนจำ

          เบื้องต้นนายทักษิณยังมีอาการปกติ ไม่มีสีหน้ากังวล และไม่ได้ร้องขออะไรเพิ่มเติมเป็นพิเศษ ส่วนทรงผมถ้าไม่ยาวก็จะไม่ตัด และไม่กล้อนเผมอย่างนักโทษทั่วไป เพราะเป็นผู้ใหญ่และเป็นผู้สูงอายุ  ขั้นตอนการกักตัวก็จะอยู่ในอาคารสถานพยาบาลของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครก่อน โดยอยู่คนเดียว ไม่ปะปนกับคนอื่น กักตัว 10 วัน ตามกำหนด โดย 5 วันแรก จะเป็นการกักแบบเข้มข้นอยู่ในห้อง มีแต่ทนายความตามกฎหมายเท่านั้นที่จะพบได้  ส่วน 5 วันหลัง จะผ่อนปรนให้ญาติเยี่ยมได้ผ่านแอปพลิเคชันไลน์  หลังจากนั้นต้องดูว่าจะอยู่เดี่ยวหรือจะมีผู้ต้องขังที่เป็นอาสาสมัครเข้ามา ซึ่งต้องพิจารณาอีกครั้ง และต้องเฝ้าระวังไม่ให้ติดโควิดอีก รวมทั้งจะต้องปฏิบัติเหมือนกับผู้ต้องขังรายอื่นๆ มีสิทธิ์พบกับทนายความ มีญาติสามารถเยี่ยมได้ตามสิทธิ์ทุกประการ

          ส่วนการยื่นขออภัยโทษ สามารถให้ตัวแทนยื่นเอกสารได้เลยตั้งแต่วันนี้

#กรมราชทัณฑ์

#ทักษิณชินวัตร

#ทักษิณกลับไทย